เคล็ดลับดูแลสุขภาพหัวใจในช่วงตั้งครรภ์

เคล็ดลับดูแลสุขภาพหัวใจในช่วงตั้งครรภ์

by babyandmomthai.com

เคล็ดลับดูแลสุขภาพหัวใจในช่วงตั้งครรภ์


บทนำ

ในช่วงตั้งครรภ์ ระบบหัวใจและหลอดเลือดของคุณแม่ต้องทำงานหนักขึ้นกว่าปกติ เพื่อสูบฉีดเลือดไปหล่อเลี้ยงทั้งร่างกายของแม่และทารกในครรภ์ ซึ่งทำให้หัวใจต้องเผชิญกับความเครียดและความเปลี่ยนแปลงมากมาย เช่น อัตราการเต้นของหัวใจที่เพิ่มขึ้น ปริมาณเลือดที่มากขึ้น และแรงกดดันจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน

ดังนั้น การดูแลสุขภาพหัวใจให้แข็งแรงในช่วงตั้งครรภ์จึงเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่ง เพราะสุขภาพหัวใจที่ดีของคุณแม่จะส่งผลโดยตรงต่อการเติบโตและพัฒนาการของทารกในครรภ์

บทความนี้จะแนะนำเคล็ดลับในการดูแลหัวใจให้แข็งแรงในระหว่างตั้งครรภ์อย่างถูกต้องและปลอดภัย


การเปลี่ยนแปลงของหัวใจในช่วงตั้งครรภ์

ในระหว่างตั้งครรภ์ ร่างกายของคุณแม่จะเกิดการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญเกี่ยวกับหัวใจและหลอดเลือด ได้แก่:

  1. ปริมาณเลือดที่เพิ่มขึ้น
    • ปริมาณเลือดในร่างกายจะเพิ่มขึ้นประมาณ 30-50% เพื่อส่งออกซิเจนและสารอาหารไปยังทารก
  2. อัตราการเต้นของหัวใจที่เร็วขึ้น
    • หัวใจของคุณแม่จะเต้นเร็วขึ้นประมาณ 10-20 ครั้งต่อนาที
  3. ความดันโลหิตเปลี่ยนแปลง
    • ในไตรมาสแรกและสอง ความดันโลหิตอาจลดลงเล็กน้อย แต่จะกลับมาเป็นปกติในไตรมาสที่สาม
  4. แรงดันของมดลูกต่อหลอดเลือด
    • เมื่อมดลูกขยายใหญ่ขึ้น จะกดทับหลอดเลือดดำที่นำเลือดกลับเข้าสู่หัวใจ

เคล็ดลับดูแลสุขภาพหัวใจในช่วงตั้งครรภ์

1. รับประทานอาหารเพื่อสุขภาพหัวใจ

การรับประทานอาหารที่ดีต่อหัวใจเป็นพื้นฐานในการดูแลสุขภาพหัวใจในช่วงตั้งครรภ์:

  • เน้นผักและผลไม้ เช่น ผักใบเขียวเข้ม ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่
  • เลือกแหล่งโปรตีนคุณภาพสูง เช่น เนื้อปลา ไข่ขาว ถั่วต่างๆ
  • ไขมันดี เช่น อะโวคาโด น้ำมันมะกอก ถั่ววอลนัท
  • หลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมันอิ่มตัวสูง เช่น อาหารทอด อาหารฟาสต์ฟู้ด

2. ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ

การออกกำลังกายที่เหมาะสมช่วยกระตุ้นระบบไหลเวียนโลหิต ลดความเครียด และเสริมสร้างความแข็งแรงให้หัวใจ:

  • กิจกรรมที่แนะนำ: เดินเบาๆ ว่ายน้ำ โยคะสำหรับคนท้อง
  • ข้อควรระวัง: หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายที่หักโหมเกินไป และควรปรึกษาแพทย์ก่อนเริ่มออกกำลังกาย

3. ควบคุมน้ำหนักตัวให้เหมาะสม

การเพิ่มน้ำหนักมากเกินไปในระหว่างตั้งครรภ์จะเพิ่มภาระให้กับหัวใจ:

  • ควรควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสมตามคำแนะนำของแพทย์
  • หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารที่มีแคลอรีสูง แต่ไม่มีประโยชน์ทางโภชนาการ

4. ดื่มน้ำให้เพียงพอ

การดื่มน้ำในปริมาณที่เหมาะสมช่วยรักษาสมดุลของระบบไหลเวียนโลหิตและลดความเสี่ยงของการเกิดลิ่มเลือด:

  • ควรดื่มน้ำประมาณ 8-10 แก้วต่อวัน

5. หลีกเลี่ยงความเครียด

ความเครียดมีผลกระทบต่อหัวใจและระบบไหลเวียนโลหิตโดยตรง:

  • ฝึกการหายใจลึกๆ และทำสมาธิ
  • ใช้เวลาพักผ่อนกับกิจกรรมที่ผ่อนคลาย เช่น อ่านหนังสือ ฟังเพลง

6. พักผ่อนให้เพียงพอ

การนอนหลับอย่างมีคุณภาพช่วยฟื้นฟูระบบหัวใจและหลอดเลือดให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ:

  • ควรนอนพักผ่อนอย่างน้อย 7-8 ชั่วโมงต่อวัน
  • นอนตะแคงซ้ายเพื่อลดแรงกดทับต่อหลอดเลือด

7. หลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงที่ทำร้ายหัวใจ

  • ห้ามสูบบุหรี่และหลีกเลี่ยงการได้รับควันบุหรี่
  • งดดื่มแอลกอฮอล์และเครื่องดื่มคาเฟอีนเกินปริมาณที่แนะนำ
  • หลีกเลี่ยงการใช้ยาหรืออาหารเสริมโดยไม่ได้รับคำแนะนำจากแพทย์

8. ตรวจสุขภาพหัวใจอย่างสม่ำเสมอ

การตรวจสุขภาพหัวใจเป็นประจำจะช่วยให้แพทย์สามารถติดตามและป้องกันความเสี่ยงต่างๆ ได้ทันเวลา:

  • ตรวจวัดความดันโลหิตอย่างสม่ำเสมอ
  • ตรวจวัดระดับน้ำตาลและไขมันในเลือดตามคำแนะนำ

สัญญาณอันตรายเกี่ยวกับหัวใจในช่วงตั้งครรภ์

หากคุณแม่พบอาการดังต่อไปนี้ ควรรีบพบแพทย์ทันที:

  1. หายใจไม่อิ่ม หายใจลำบาก
  2. เจ็บแน่นหน้าอก
  3. ใจสั่นหรือหัวใจเต้นเร็วผิดปกติ
  4. เวียนศีรษะและหน้ามืดบ่อยครั้ง
  5. ขาบวมมากผิดปกติ

สรุป

การดูแลสุขภาพหัวใจในช่วงตั้งครรภ์เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งที่คุณแม่ไม่ควรละเลย เพราะหัวใจที่แข็งแรงจะช่วยให้ระบบไหลเวียนโลหิตทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลดีต่อการเจริญเติบโตและสุขภาพของทารกในครรภ์การรับประทานอาหารที่ดี ออกกำลังกายอย่างเหมาะสม ลดความเครียด และพักผ่อนให้เพียงพอ จะช่วยให้หัวใจของคุณแม่ทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ และพร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงในช่วงตั้งครรภ์ได้อย่างมั่นใจ

 

You may also like

Share via