ผลกระทบของการตั้งครรภ์ต่อระบบปัสสาวะและการดูแล

ผลกระทบของการตั้งครรภ์ต่อระบบปัสสาวะและการดูแล

by babyandmomthai.com

ผลกระทบของการตั้งครรภ์ต่อระบบปัสสาวะและการดูแล


บทนำ

การตั้งครรภ์ทำให้ระบบต่าง ๆ ภายในร่างกายของคุณแม่เกิดการเปลี่ยนแปลง รวมถึงระบบทางเดินปัสสาวะที่ได้รับผลกระทบจากการขยายตัวของมดลูกและการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน อาการที่พบได้บ่อยในช่วงตั้งครรภ์ เช่น ปัสสาวะบ่อย กลั้นปัสสาวะไม่อยู่ หรือแม้กระทั่งภาวะติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ ซึ่งอาจนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนหากไม่ได้รับการดูแลที่เหมาะสม บทความนี้จะอธิบายถึงผลกระทบที่เกิดขึ้น แนวทางการดูแลระบบปัสสาวะให้แข็งแรง และวิธีป้องกันภาวะที่อาจเกิดขึ้นในช่วงตั้งครรภ์


เนื้อหา

1. การเปลี่ยนแปลงของระบบปัสสาวะในช่วงตั้งครรภ์

ในช่วงตั้งครรภ์ ระบบทางเดินปัสสาวะจะมีการเปลี่ยนแปลง ดังนี้:

  1. การเพิ่มของฮอร์โมนโปรเจสเตอโรน
    • ทำให้กล้ามเนื้อของทางเดินปัสสาวะคลายตัว ส่งผลให้การขับปัสสาวะช้าลง
  2. มดลูกขยายตัว
    • มดลูกที่ขยายใหญ่ขึ้นจะกดทับกระเพาะปัสสาวะ ทำให้ปัสสาวะบ่อยขึ้น
  3. การเพิ่มของปริมาณเลือดและของเหลวในร่างกาย
    • ไตทำงานหนักขึ้นเพื่อกรองเลือดและน้ำ ส่งผลให้ผลิตปัสสาวะมากขึ้น
  4. กล้ามเนื้ออุ้งเชิงกรานอ่อนแรง
    • น้ำหนักครรภ์เพิ่มขึ้นส่งผลให้กล้ามเนื้ออุ้งเชิงกรานทำงานได้ลดลง ทำให้เกิดอาการกลั้นปัสสาวะไม่อยู่

2. ปัญหาที่พบบ่อยในระบบปัสสาวะระหว่างตั้งครรภ์

2.1 ปัสสาวะบ่อย

  • สาเหตุ: มดลูกขยายตัวกดทับกระเพาะปัสสาวะ
  • วิธีดูแล: หลีกเลี่ยงการดื่มน้ำปริมาณมากก่อนนอน แต่ควรดื่มน้ำตลอดวัน

2.2 กลั้นปัสสาวะไม่อยู่

  • สาเหตุ: กล้ามเนื้ออุ้งเชิงกรานอ่อนแรงจากน้ำหนักครรภ์
  • วิธีดูแล: ฝึกบริหารกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกรานด้วยท่า Kegel เป็นประจำ

2.3 การติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ (UTI)

  • สาเหตุ: ฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนทำให้ปัสสาวะค้างในกระเพาะปัสสาวะนานขึ้น
  • อาการ: ปัสสาวะแสบขัด, ปัสสาวะขุ่น, ปวดท้องน้อย
  • วิธีดูแล: ดื่มน้ำมาก ๆ, เข้าห้องน้ำบ่อย และรักษาความสะอาดบริเวณอวัยวะเพศ

2.4 นิ่วในทางเดินปัสสาวะ

  • สาเหตุ: การขาดน้ำหรือการสะสมแคลเซียมในไต
  • วิธีดูแล: ดื่มน้ำให้เพียงพอและลดการบริโภคอาหารที่มีโซเดียมสูง

3. แนวทางการดูแลระบบปัสสาวะในช่วงตั้งครรภ์

3.1 ดื่มน้ำให้เพียงพอ

  • ควรดื่มน้ำสะอาดวันละ 8-10 แก้ว เพื่อช่วยให้ไตทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและลดความเสี่ยงในการติดเชื้อ

3.2 ไม่กลั้นปัสสาวะ

  • การกลั้นปัสสาวะนาน ๆ ทำให้เชื้อแบคทีเรียสะสมในกระเพาะปัสสาวะ

3.3 ฝึกบริหารกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกราน

  • การทำท่า Kegel ช่วยเพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกราน ลดปัญหาการกลั้นปัสสาวะไม่อยู่
    • วิธีทำ: ขมิบกล้ามเนื้อเหมือนกลั้นปัสสาวะ ค้างไว้ 5-10 วินาที ทำซ้ำวันละ 10-15 ครั้ง

3.4 รักษาความสะอาด

  • ล้างทำความสะอาดอวัยวะเพศจากด้านหน้าไปด้านหลังหลังเข้าห้องน้ำ
  • หลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่มีสารเคมีรุนแรง

3.5 หลีกเลี่ยงอาหารและเครื่องดื่มที่ระคายเคืองกระเพาะปัสสาวะ

  • หลีกเลี่ยงคาเฟอีน น้ำอัดลม และอาหารรสเผ็ดจัด เพราะอาจทำให้เกิดการระคายเคือง

4. การป้องกันภาวะติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ

  1. ดื่มน้ำมาก ๆ และปัสสาวะให้บ่อย
  2. เปลี่ยนชุดชั้นในให้แห้งและสะอาดเสมอ
  3. หลีกเลี่ยงการนั่งนานเกินไป
  4. สังเกตสัญญาณผิดปกติ เช่น ปัสสาวะขุ่นหรือมีกลิ่นเหม็น

5. คำแนะนำจากแพทย์เมื่อพบปัญหาระบบปัสสาวะ

ควรรีบพบแพทย์ทันทีหากพบอาการต่อไปนี้:

  1. ปัสสาวะแสบขัดหรือปัสสาวะมีเลือดปน
  2. มีไข้สูงร่วมกับปวดท้องน้อย
  3. ปัสสาวะขุ่นหรือมีกลิ่นผิดปกติ
  4. ปวดหลังรุนแรง ซึ่งอาจเป็นสัญญาณของการติดเชื้อในไต

สรุป

การตั้งครรภ์ส่งผลกระทบต่อระบบปัสสาวะทั้งทางตรงและทางอ้อม เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนและมดลูกที่ขยายตัว คุณแม่ควรดูแลระบบปัสสาวะด้วยการดื่มน้ำให้เพียงพอ ฝึกบริหารกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกราน และรักษาความสะอาดอย่างสม่ำเสมอ การสังเกตสัญญาณผิดปกติและเข้ารับการตรวจรักษาอย่างทันท่วงทีจะช่วยให้คุณแม่มีสุขภาพแข็งแรงและปลอดภัยตลอดช่วงการตั้งครรภ์

 

You may also like

Share via