ความสำคัญของการตรวจคัดกรองโรคพันธุกรรมในระหว่างตั้งครรภ์

ความสำคัญของการตรวจคัดกรองโรคพันธุกรรมในระหว่างตั้งครรภ์

by babyandmomthai.com

ความสำคัญของการตรวจคัดกรองโรคพันธุกรรมในระหว่างตั้งครรภ์


บทนำ

การตั้งครรภ์เป็นช่วงเวลาที่คุณแม่ต้องเฝ้าดูแลสุขภาพของตนเองและลูกน้อยในครรภ์อย่างใกล้ชิด หนึ่งในขั้นตอนสำคัญที่ช่วยให้การตั้งครรภ์เป็นไปอย่างปลอดภัยคือ การตรวจคัดกรองโรคพันธุกรรม การตรวจเหล่านี้มีวัตถุประสงค์เพื่อประเมินความเสี่ยงในการเกิดโรคหรือความผิดปกติทางพันธุกรรมที่อาจถ่ายทอดจากพ่อแม่สู่ลูก ซึ่งบางโรคสามารถส่งผลต่อพัฒนาการหรือสุขภาพของทารกหลังคลอด

บทความนี้จะอธิบายถึงความสำคัญของการตรวจคัดกรองโรคพันธุกรรม ประเภทของการตรวจ วิธีการดำเนินการ และแนวทางปฏิบัติสำหรับคุณแม่เพื่อตัดสินใจเข้ารับการตรวจอย่างถูกต้อง


เนื้อหา

1. การตรวจคัดกรองโรคพันธุกรรมคืออะไร

การตรวจคัดกรองโรคพันธุกรรมเป็นการประเมินความเสี่ยงของทารกที่จะมีความผิดปกติทางพันธุกรรมหรือโรคที่ถ่ายทอดจากพ่อแม่ ซึ่งสามารถทำได้ตั้งแต่ช่วงต้นของการตั้งครรภ์ โดยการตรวจคัดกรองนี้ไม่ได้เป็นการวินิจฉัยโรคโดยตรง แต่เป็นการประเมินเบื้องต้นเพื่อดูโอกาสความเสี่ยง


2. ทำไมการตรวจคัดกรองโรคพันธุกรรมจึงสำคัญ

การตรวจคัดกรองโรคพันธุกรรมมีความสำคัญหลายประการ ได้แก่:

  1. ประเมินความเสี่ยงของทารก:
    • ช่วยให้ทราบว่าทารกในครรภ์มีความเสี่ยงต่อโรคทางพันธุกรรมหรือไม่
  2. การวางแผนการดูแลระหว่างตั้งครรภ์:
    • แพทย์สามารถวางแผนการรักษาหรือเตรียมการช่วยเหลือหลังคลอดหากพบความผิดปกติ
  3. การตัดสินใจที่เหมาะสม:
    • ช่วยให้คุณพ่อคุณแม่ตัดสินใจเกี่ยวกับการตั้งครรภ์อย่างมีข้อมูลที่ชัดเจน
  4. ลดความเสี่ยงของภาวะแทรกซ้อน:
    • หากมีการวินิจฉัยที่รวดเร็ว คุณแม่และแพทย์สามารถจัดการกับความเสี่ยงได้อย่างเหมาะสม

3. โรคพันธุกรรมที่สามารถตรวจคัดกรองได้

โรคพันธุกรรมที่สามารถตรวจคัดกรองได้ในระหว่างตั้งครรภ์มีหลายชนิด เช่น:

  1. กลุ่มโรคโครโมโซมผิดปกติ:
    • ดาวน์ซินโดรม (Down Syndrome): เกิดจากโครโมโซมคู่ที่ 21 เกินมาหนึ่งแท่ง
    • เทอร์เนอร์ซินโดรม (Turner Syndrome): ความผิดปกติในโครโมโซมเพศ พบในทารกเพศหญิง
  2. โรคทางพันธุกรรมเดี่ยว (Single-Gene Disorders):
    • ธาลัสซีเมีย: โรคโลหิตจางที่ถ่ายทอดทางพันธุกรรม
    • ซิสติกไฟโบรซิส (Cystic Fibrosis): ความผิดปกติของระบบทางเดินหายใจและย่อยอาหาร
  3. ความผิดปกติของท่อประสาท (Neural Tube Defects):
    • ภาวะที่ท่อประสาทของทารกไม่ปิดสมบูรณ์ เช่น ภาวะไขสันหลังไม่ปิด
  4. โรคทางเมตาบอลิซึม:
    • โรคที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการเผาผลาญอาหาร เช่น ฟีนิลคีโตนูเรีย (PKU)

4. ประเภทของการตรวจคัดกรองโรคพันธุกรรม

  1. การตรวจคัดกรองก่อนคลอด (Prenatal Screening Tests):
    • เป็นการตรวจเพื่อหาความเสี่ยงเบื้องต้น โดยไม่เป็นอันตรายต่อทารก
    • ตัวอย่างการตรวจ:
      • การตรวจเลือดของคุณแม่
      • การตรวจอัลตราซาวด์เพื่อดูความผิดปกติของทารก
  2. การตรวจวินิจฉัยก่อนคลอด (Prenatal Diagnostic Tests):
    • เป็นการตรวจเพื่อยืนยันผลเมื่อพบความเสี่ยงสูง
    • ตัวอย่างการตรวจ:
      • การเจาะน้ำคร่ำ (Amniocentesis)
      • การตรวจชิ้นเนื้อรก (Chorionic Villus Sampling – CVS)
  3. การตรวจ NIPT (Non-Invasive Prenatal Testing):
    • ตรวจความผิดปกติของโครโมโซมจากเลือดของคุณแม่
    • ปลอดภัยและไม่เสี่ยงต่อการแท้งบุตร

5. กระบวนการตรวจคัดกรองโรคพันธุกรรม

  1. การซักประวัติครอบครัว:
    • แพทย์จะสอบถามประวัติสุขภาพของคุณพ่อคุณแม่และครอบครัว เพื่อดูความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น
  2. การตรวจเลือดในไตรมาสที่ 1:
    • ตรวจหาระดับโปรตีนและฮอร์โมนที่เกี่ยวข้องกับความผิดปกติของทารก
  3. การทำอัลตราซาวด์:
    • ตรวจดูความหนาของน้ำคอทารก (Nuchal Translucency) และโครงสร้างต่างๆ
  4. การตรวจเจาะน้ำคร่ำหรือ CVS:
    • ทำเมื่อมีความเสี่ยงสูง โดยการเก็บตัวอย่างเซลล์จากน้ำคร่ำหรือรกเพื่อตรวจโครโมโซม
  5. การตรวจ NIPT:
    • ตรวจดีเอ็นเอของทารกจากเลือดของคุณแม่ ซึ่งให้ผลแม่นยำและปลอดภัย

6. ข้อดีและข้อควรระวังของการตรวจคัดกรอง

ข้อดี:

  1. ช่วยลดความกังวลและเตรียมตัวรับมือกับความเสี่ยงได้ดียิ่งขึ้น
  2. ให้ข้อมูลที่ชัดเจนในการวางแผนการรักษาหรือการดูแล

ข้อควรระวัง:

  1. การตรวจบางประเภท เช่น การเจาะน้ำคร่ำ มีความเสี่ยงต่อการแท้งบุตร
  2. ผลการตรวจคัดกรองไม่ได้เป็นการยืนยัน 100% ควรทำการตรวจเพิ่มเติมตามคำแนะนำของแพทย์

7. คำแนะนำสำหรับคุณแม่ที่ต้องการตรวจคัดกรองโรคพันธุกรรม

  1. ปรึกษาแพทย์ก่อนการตรวจเพื่อเข้าใจถึงกระบวนการและความเสี่ยง
  2. ตรวจคัดกรองในช่วงอายุครรภ์ที่เหมาะสม
    • ไตรมาสที่ 1: ตรวจเลือดและอัลตราซาวด์
    • ไตรมาสที่ 2: ตรวจความสมบูรณ์ของทารก
  3. เลือกการตรวจที่เหมาะสมกับสภาวะสุขภาพและความต้องการของตนเอง

สรุป

การตรวจคัดกรองโรคพันธุกรรมเป็นขั้นตอนสำคัญที่ช่วยให้คุณแม่ทราบถึงความเสี่ยงของทารกในครรภ์ การตรวจเหล่านี้ไม่ได้มีจุดประสงค์เพื่อสร้างความกังวล แต่เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการดูแลรักษาและตัดสินใจอย่างเหมาะสม คุณแม่ควรเข้ารับการตรวจภายใต้คำแนะนำของแพทย์ เพื่อให้การตั้งครรภ์ดำเนินไปอย่างปลอดภัยและสุขภาพดีทั้งคุณแม่และลูกน้อย

คุณพูดว่า:
 

You may also like

Share via