โรคที่ต้องระวังในช่วงตั้งครรภ์และวิธีป้องกัน
บทนำ
การตั้งครรภ์เป็นช่วงเวลาที่คุณแม่ต้องดูแลสุขภาพให้มากเป็นพิเศษ เนื่องจากร่างกายมีการเปลี่ยนแปลงหลายอย่าง เช่น ระบบภูมิคุ้มกันที่ลดลง ฮอร์โมนที่เปลี่ยนแปลง และการเพิ่มขึ้นของน้ำหนัก ซึ่งทำให้คุณแม่มีความเสี่ยงต่อโรคต่างๆ มากขึ้น โรคบางชนิดอาจส่งผลกระทบต่อการพัฒนาของทารกในครรภ์และอาจก่อให้เกิดภาวะแทรกซ้อนในการตั้งครรภ์
บทความนี้จะกล่าวถึงโรคที่ต้องระวังในช่วงตั้งครรภ์ พร้อมวิธีป้องกันและคำแนะนำที่ช่วยให้คุณแม่ตั้งครรภ์ดูแลตัวเองได้อย่างถูกต้อง
เนื้อหา
1. โรคเบาหวานขณะตั้งครรภ์ (Gestational Diabetes)
- สาเหตุ: ฮอร์โมนในช่วงตั้งครรภ์ทำให้ร่างกายดื้อต่ออินซูลิน ส่งผลให้น้ำตาลในเลือดสูงขึ้น
- อาการ: กระหายน้ำบ่อย ปัสสาวะบ่อย น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นผิดปกติ
- ผลกระทบ:
- ทารกตัวใหญ่ผิดปกติ เสี่ยงต่อการคลอดยาก
- ทารกเสี่ยงภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำหลังคลอด
- คุณแม่เสี่ยงเบาหวานชนิดที่ 2 หลังคลอด
- การป้องกัน:
- ควบคุมอาหาร ลดการทานน้ำตาลและแป้งขัดสี
- ออกกำลังกายเบาๆ เช่น เดิน หรือโยคะ
- ตรวจคัดกรองน้ำตาลในเลือดตามแพทย์แนะนำ
2. ภาวะความดันโลหิตสูงขณะตั้งครรภ์ (Gestational Hypertension)
- สาเหตุ: เกิดจากการทำงานของหลอดเลือดที่ผิดปกติในช่วงตั้งครรภ์
- อาการ: ปวดศีรษะรุนแรง บวมที่มือ เท้า และใบหน้า เห็นภาพซ้อน
- ผลกระทบ:
- เสี่ยงภาวะครรภ์เป็นพิษ
- การเจริญเติบโตของทารกช้าผิดปกติ
- คลอดก่อนกำหนด
- การป้องกัน:
- รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ หลีกเลี่ยงอาหารเค็มจัด
- พักผ่อนให้เพียงพอและหลีกเลี่ยงความเครียด
- ตรวจความดันโลหิตเป็นประจำ
3. ภาวะโลหิตจาง (Anemia)
- สาเหตุ: การขาดธาตุเหล็กที่จำเป็นต่อการสร้างเม็ดเลือดแดง
- อาการ: อ่อนเพลีย หน้ามืด หายใจลำบาก ตัวซีด
- ผลกระทบ:
- ทารกเสี่ยงน้ำหนักตัวน้อย
- คลอดก่อนกำหนด
- การฟื้นตัวหลังคลอดช้าลง
- การป้องกัน:
- รับประทานอาหารที่มีธาตุเหล็ก เช่น เนื้อแดง ผักใบเขียว ถั่ว และธัญพืช
- ทานอาหารเสริมธาตุเหล็กตามแพทย์แนะนำ
4. ภาวะติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะ (Urinary Tract Infection: UTI)
- สาเหตุ: การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนทำให้ปัสสาวะไหลเวียนช้าลง ทำให้เชื้อแบคทีเรียเจริญเติบโตได้ง่าย
- อาการ: ปัสสาวะแสบขัด ปัสสาวะบ่อย ปวดท้องน้อย
- ผลกระทบ:
- เสี่ยงต่อการคลอดก่อนกำหนด
- การติดเชื้อแพร่กระจายสู่ไต
- การป้องกัน:
- ดื่มน้ำให้มากๆ วันละ 8-10 แก้ว
- รักษาความสะอาดของอวัยวะเพศ
- ปัสสาวะบ่อยๆ อย่ากลั้นปัสสาวะ
5. ภาวะครรภ์เป็นพิษ (Preeclampsia)
- สาเหตุ: ความดันโลหิตสูงร่วมกับโปรตีนในปัสสาวะ
- อาการ: ปวดศีรษะรุนแรง บวมผิดปกติ ปวดท้องบริเวณลิ้นปี่
- ผลกระทบ:
- เสี่ยงต่อการคลอดก่อนกำหนด
- อันตรายถึงชีวิตทั้งแม่และลูก
- การป้องกัน:
- ตรวจความดันโลหิตและปัสสาวะอย่างสม่ำเสมอ
- รับประทานอาหารที่มีประโยชน์
- งดเค็มและพักผ่อนให้เพียงพอ
6. โรคติดเชื้อที่ต้องระวัง
- โรคหัดเยอรมัน (Rubella):
- ผลกระทบ: ทารกพิการแต่กำเนิด เช่น หูหนวก ตาบอด หัวใจพิการ
- การป้องกัน: ตรวจภูมิคุ้มกันก่อนตั้งครรภ์และฉีดวัคซีนป้องกัน
- โรคไข้หวัดใหญ่:
- ผลกระทบ: เสี่ยงปอดบวมและภาวะการคลอดก่อนกำหนด
- การป้องกัน: ฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ระหว่างตั้งครรภ์
- โรคตับอักเสบบี (Hepatitis B):
- ผลกระทบ: ทารกเสี่ยงติดเชื้อจากแม่
- การป้องกัน: ตรวจคัดกรองเชื้อไวรัสตับอักเสบ และรับวัคซีนป้องกัน
7. วิธีป้องกันโรคในช่วงตั้งครรภ์โดยรวม
- การดูแลโภชนาการ:
- รับประทานอาหารที่มีสารอาหารครบถ้วน เช่น แคลเซียม ธาตุเหล็ก และวิตามินต่างๆ
- การออกกำลังกาย:
- ออกกำลังกายเบาๆ อย่างสม่ำเสมอ เช่น การเดินหรือโยคะ
- ตรวจสุขภาพเป็นประจำ:
- ไปฝากครรภ์และตรวจสุขภาพตามนัดของแพทย์
- รักษาความสะอาด:
- ล้างมือบ่อยๆ และหลีกเลี่ยงการสัมผัสผู้ป่วยโรคติดต่อ
- หลีกเลี่ยงสารอันตราย:
- งดสูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอล์ และหลีกเลี่ยงสารเคมีที่เป็นอันตราย
- ดูแลสุขภาพจิตใจ:
- พักผ่อนให้เพียงพอและจัดการความเครียด
สรุป
ในช่วงตั้งครรภ์ คุณแม่ควรดูแลสุขภาพให้มากเป็นพิเศษเพื่อป้องกันโรคที่อาจเกิดขึ้น เช่น เบาหวานขณะตั้งครรภ์ ความดันโลหิตสูง ภาวะโลหิตจาง และโรคติดเชื้ออื่นๆ การตรวจสุขภาพอย่างสม่ำเสมอ การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ และการออกกำลังกายเบาๆ จะช่วยลดความเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนทั้งแม่และลูกน้อยในครรภ์