10 ข้อควรรู้เกี่ยวกับการคลอดในโรงพยาบาลที่ไม่มี NICU

10 ข้อควรรู้เกี่ยวกับการคลอดในโรงพยาบาลที่ไม่มี NICU

by babyandmomthai.com

10 ข้อควรรู้เกี่ยวกับการคลอดในโรงพยาบาลที่ไม่มี NICU


บทนำ

NICU (Neonatal Intensive Care Unit) หรือหออภิบาลทารกแรกเกิดวิกฤติ เป็นส่วนสำคัญของโรงพยาบาลที่ดูแลทารกแรกเกิดที่ต้องการการดูแลพิเศษ อย่างไรก็ตาม คุณแม่บางคนอาจเลือกหรือจำเป็นต้องคลอดในโรงพยาบาลที่ไม่มี NICU ซึ่งเป็นเรื่องที่ควรมีการวางแผนและการเตรียมตัวอย่างเหมาะสมเพื่อให้การคลอดเป็นไปอย่างปลอดภัยและราบรื่น บทความนี้จะให้ข้อมูลเกี่ยวกับสิ่งที่ควรรู้และวิธีการเตรียมตัวสำหรับการคลอดในโรงพยาบาลที่ไม่มี NICU


เนื้อหา

1. ทำความเข้าใจกับความหมายของการไม่มี NICU

โรงพยาบาลที่ไม่มี NICU จะไม่สามารถรองรับทารกที่ต้องการการดูแลพิเศษ เช่น ทารกคลอดก่อนกำหนด ทารกน้ำหนักต่ำกว่าเกณฑ์ หรือทารกที่มีภาวะแทรกซ้อน เช่น ปัญหาเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ คุณแม่ที่เลือกคลอดในโรงพยาบาลแบบนี้ควรมั่นใจว่าทารกในครรภ์มีสุขภาพแข็งแรงและไม่มีภาวะแทรกซ้อน


2. ตรวจสอบความพร้อมของโรงพยาบาล

2.1 ทีมแพทย์และพยาบาล

  • ตรวจสอบว่าโรงพยาบาลมีสูติแพทย์และพยาบาลผดุงครรภ์ที่มีประสบการณ์ในการดูแลการคลอด
  • สอบถามว่าโรงพยาบาลมีทีมกุมารแพทย์หรือพยาบาลที่ดูแลทารกแรกเกิดหรือไม่

2.2 อุปกรณ์การแพทย์

  • โรงพยาบาลควรมีอุปกรณ์พื้นฐาน เช่น เครื่องช่วยหายใจสำหรับทารกและอุปกรณ์กู้ชีพเบื้องต้น
  • ตรวจสอบว่าโรงพยาบาลมีระบบส่งต่อผู้ป่วยไปยังโรงพยาบาลที่มี NICU ได้อย่างรวดเร็ว

3. เตรียมข้อมูลเกี่ยวกับโรงพยาบาลที่มี NICU ใกล้เคียง

คุณแม่ควรรู้ว่าหากเกิดเหตุฉุกเฉิน โรงพยาบาลใดที่มี NICU และสามารถรองรับทารกแรกเกิดได้ ตรวจสอบระยะทางและเวลาที่ใช้ในการเดินทาง รวมถึงขั้นตอนการส่งต่อผู้ป่วย


4. การตรวจสุขภาพก่อนคลอดเป็นสิ่งสำคัญ

4.1 การตรวจครรภ์โดยละเอียด

  • ตรวจสอบสุขภาพของทารก เช่น การเต้นของหัวใจ การเจริญเติบโต และตำแหน่งในครรภ์
  • ทำอัลตราซาวด์เพื่อดูความพร้อมของทารกและประเมินความเสี่ยง

4.2 ประเมินความพร้อมของคุณแม่

  • ตรวจสอบสุขภาพของคุณแม่ เช่น ความดันโลหิตและระดับน้ำตาลในเลือด เพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อน

5. วางแผนการคลอดอย่างรอบคอบ

5.1 การเลือกวิธีคลอด

  • หากไม่มีภาวะแทรกซ้อน คุณแม่สามารถคลอดธรรมชาติได้
  • หากมีความเสี่ยง แพทย์อาจแนะนำให้คลอดด้วยการผ่าคลอดเพื่อความปลอดภัย

5.2 การเตรียมเอกสารและกระเป๋าคลอด

  • เตรียมเอกสารสำคัญ เช่น สมุดฝากครรภ์ และบัตรประกันสุขภาพ
  • จัดของใช้ที่จำเป็นสำหรับการดูแลทารกและการพักฟื้นของคุณแม่

6. การดูแลหลังคลอดในโรงพยาบาลที่ไม่มี NICU

  • หากทารกเกิดมาสุขภาพแข็งแรง คุณแม่และทารกสามารถพักฟื้นในโรงพยาบาลตามปกติ
  • ในกรณีที่ทารกต้องการการดูแลเพิ่มเติม โรงพยาบาลจะส่งต่อทารกไปยังโรงพยาบาลที่มี NICU

7. การสนับสนุนจากครอบครัว

การมีคู่สมรสหรือครอบครัวอยู่ใกล้ชิดในช่วงคลอดและหลังคลอดจะช่วยให้คุณแม่รู้สึกผ่อนคลายและมั่นใจมากขึ้น ครอบครัวยังสามารถช่วยดูแลทารกและประสานงานกับทีมแพทย์หากมีสถานการณ์ฉุกเฉิน


8. การจัดการกับความวิตกกังวล

  • การคลอดในโรงพยาบาลที่ไม่มี NICU อาจสร้างความกังวลให้กับคุณแม่ การพูดคุยกับแพทย์และการเตรียมข้อมูลที่เพียงพอจะช่วยลดความวิตกกังวลได้
  • ฝึกเทคนิคการหายใจและการผ่อนคลาย เช่น การทำสมาธิหรือการฟังเพลง

9. การเตรียมตัวสำหรับสถานการณ์ฉุกเฉิน

  • คุณแม่ควรมีแผนสำรองในกรณีที่ต้องเปลี่ยนแผนการคลอดหรือส่งต่อทารก
  • ตรวจสอบว่ามีรถพยาบาลหรือบริการฉุกเฉินที่พร้อมให้บริการหรือไม่

10. ข้อควรระวัง

  • หากคุณแม่มีภาวะแทรกซ้อน เช่น ครรภ์เป็นพิษ หรือทารกอยู่ในตำแหน่งผิดปกติ ควรพิจารณาคลอดในโรงพยาบาลที่มี NICU
  • หากคุณแม่รู้สึกไม่มั่นใจ ควรขอคำแนะนำจากแพทย์เพิ่มเติม

สรุป

การคลอดในโรงพยาบาลที่ไม่มี NICU ต้องการการวางแผนและการเตรียมตัวอย่างรอบคอบ คุณแม่ควรตรวจสอบความพร้อมของโรงพยาบาล ทีมแพทย์ และอุปกรณ์ รวมถึงการมีข้อมูลเกี่ยวกับโรงพยาบาลที่มี NICU ใกล้เคียงในกรณีฉุกเฉิน ด้วยการเตรียมตัวอย่างเหมาะสม คุณแม่จะสามารถคลอดได้อย่างปลอดภัยและมั่นใจ

 

You may also like

Share via