สิ่งที่ต้องรู้เกี่ยวกับการเดินทางในช่วงตั้งครรภ์

สิ่งที่ต้องรู้เกี่ยวกับการเดินทางในช่วงตั้งครรภ์

by babyandmomthai.com

สิ่งที่ต้องรู้เกี่ยวกับการเดินทางในช่วงตั้งครรภ์


บทนำ

การเดินทางในช่วงตั้งครรภ์เป็นเรื่องที่คุณแม่หลายคนกังวล โดยเฉพาะความปลอดภัยของตนเองและลูกน้อยในครรภ์ ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางโดยรถยนต์ รถไฟ เครื่องบิน หรือเรือ ต่างก็มีข้อควรระวังที่แตกต่างกันออกไป นอกจากนี้ การเดินทางระหว่างตั้งครรภ์ยังต้องคำนึงถึงระยะเวลาที่เหมาะสม รวมถึงสภาพร่างกายของคุณแม่ด้วย

บทความนี้จะรวบรวมข้อมูลที่จำเป็นเกี่ยวกับการเดินทางในช่วงตั้งครรภ์ เพื่อช่วยให้คุณแม่สามารถเดินทางได้อย่างปลอดภัยและสะดวกสบาย พร้อมคำแนะนำการเตรียมตัวและข้อควรปฏิบัติ


เนื้อหา

1. ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการเดินทางสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์

การเดินทางควรคำนึงถึงระยะเวลาการตั้งครรภ์ ดังนี้:

  • ไตรมาสที่ 1 (1-13 สัปดาห์): ควรหลีกเลี่ยงการเดินทางไกล เนื่องจากมีความเสี่ยงต่อการแท้งบุตรสูง และคุณแม่อาจมีอาการแพ้ท้อง
  • ไตรมาสที่ 2 (14-27 สัปดาห์): เป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดในการเดินทาง เนื่องจากอาการแพ้ท้องลดลง และท้องยังไม่ใหญ่จนเกินไป
  • ไตรมาสที่ 3 (28-40 สัปดาห์): การเดินทางในช่วงนี้อาจไม่สะดวกและเสี่ยงต่อการคลอดก่อนกำหนด

คำแนะนำ: ก่อนเดินทางควรปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินความปลอดภัย โดยเฉพาะคุณแม่ที่มีภาวะแทรกซ้อน เช่น ความดันโลหิตสูงหรือเบาหวาน


2. การเดินทางโดยวิธีต่างๆ และข้อควรระวัง

  1. การเดินทางโดยรถยนต์
    • ข้อควรระวัง:
      • คาดเข็มขัดนิรภัยให้ถูกต้อง โดยให้สายพาดใต้หน้าท้องและพาดผ่านไหล่ ไม่กดทับบริเวณครรภ์
      • หยุดพักทุก 1-2 ชั่วโมงเพื่อลุกขึ้นยืดเส้นยืดสาย ลดความเสี่ยงลิ่มเลือดอุดตัน
      • ปรับเบาะให้นั่งสบายและรองรับแผ่นหลัง
    • สิ่งที่ควรเตรียม: หมอนรองหลัง ขนมขบเคี้ยวและน้ำดื่ม
  2. การเดินทางโดยเครื่องบิน
    • ข้อควรระวัง:
      • สายการบินส่วนใหญ่อนุญาตให้คุณแม่ตั้งครรภ์เดินทางได้จนถึงสัปดาห์ที่ 36 แต่ควรตรวจสอบนโยบายของสายการบินก่อนเดินทาง
      • สวมเสื้อผ้าหลวมสบายและถุงเท้ารัดกล้ามเนื้อเพื่อป้องกันลิ่มเลือด
      • หลีกเลี่ยงการนั่งนานเกินไป ควรลุกเดินทุกๆ 1-2 ชั่วโมง
    • สิ่งที่ควรเตรียม: ใบรับรองแพทย์ น้ำดื่ม และหมอนรองคอ
  3. การเดินทางโดยรถไฟ
    • ข้อควรระวัง:
      • เลือกที่นั่งริมทางเดินเพื่อความสะดวกในการลุกเดิน
      • หลีกเลี่ยงการยืนเป็นเวลานาน เพราะอาจทำให้ขาบวม
    • สิ่งที่ควรเตรียม: น้ำดื่ม หมอนรองหลัง และของว่าง
  4. การเดินทางโดยเรือ
    • ข้อควรระวัง:
      • ระวังอาการเมาเรือ ควรพกยาแก้เมาที่แพทย์อนุญาตให้ใช้ระหว่างตั้งครรภ์
      • ตรวจสอบว่ามีบริการทางการแพทย์บนเรือหรือไม่
    • สิ่งที่ควรเตรียม: ยารักษาโรคประจำตัว น้ำดื่ม และขนมเบาๆ

3. สิ่งที่ควรเตรียมตัวก่อนการเดินทาง

  1. ปรึกษาแพทย์: เพื่อประเมินความปลอดภัยและขอใบรับรองการเดินทางหากจำเป็น
  2. เตรียมยาสามัญและยาที่แพทย์สั่ง: เช่น ยาแก้คลื่นไส้ ยาบรรเทาอาการกรดไหลย้อน
  3. พกเอกสารที่สำคัญ: บัตรประจำตัวผู้ป่วย บันทึกการตั้งครรภ์ และเบอร์ติดต่อฉุกเฉิน
  4. เตรียมอาหารและน้ำดื่มให้เพียงพอ: เพื่อป้องกันภาวะขาดน้ำและน้ำตาลในเลือดต่ำ
  5. สวมเสื้อผ้าที่สบาย: หลีกเลี่ยงเสื้อผ้ารัดรูปและรองเท้าที่ไม่สบาย

4. เคล็ดลับการเดินทางอย่างสบายและปลอดภัย

  • ลุกขึ้นขยับร่างกาย: เพื่อกระตุ้นการไหลเวียนโลหิตและป้องกันการเกิดลิ่มเลือด
  • นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ: ก่อนการเดินทาง
  • ดื่มน้ำอย่างสม่ำเสมอ: เพื่อป้องกันภาวะขาดน้ำ
  • เลือกที่นั่งที่เหมาะสม: เช่น ที่นั่งริมทางเดินบนเครื่องบิน หรือที่นั่งที่มีพื้นที่กว้างขวาง
  • หลีกเลี่ยงกิจกรรมผจญภัย: เช่น การเล่นเครื่องเล่นหวาดเสียว หรือการเดินป่าที่อันตราย

5. การดูแลตัวเองหลังเดินทาง

  • พักผ่อนให้เพียงพอหลังการเดินทาง
  • ยืดเส้นยืดสายและนวดเบาๆ บริเวณขาและเท้า
  • ดื่มน้ำให้มากขึ้นเพื่อฟื้นฟูร่างกาย
  • สังเกตอาการผิดปกติ เช่น ปวดท้อง เลือดออก หรืออาการบวมผิดปกติ และรีบพบแพทย์ทันที

สรุป

การเดินทางในช่วงตั้งครรภ์สามารถทำได้หากมีการวางแผนและเตรียมตัวอย่างเหมาะสม คุณแม่ควรเดินทางในช่วงไตรมาสที่ 2 ซึ่งปลอดภัยและสบายตัวที่สุด พร้อมปฏิบัติตามข้อแนะนำในการเดินทางเพื่อความปลอดภัยทั้งของคุณแม่และลูกน้อย ควรหลีกเลี่ยงการเดินทางไกลในช่วงไตรมาสที่ 3 และปรึกษาแพทย์ทุกครั้งก่อนเดินทาง เพื่อให้มั่นใจว่าแม่และลูกน้อยจะปลอดภัยตลอดการเดินทาง

 

You may also like

Share via