ผลของการรับประทานอาหารเค็มต่อสุขภาพของคุณแม่ตั้งครรภ์

ผลของการรับประทานอาหารเค็มต่อสุขภาพของคุณแม่ตั้งครรภ์

by babyandmomthai.com

ผลของการรับประทานอาหารเค็มต่อสุขภาพของคุณแม่ตั้งครรภ์

บทนำ

ในช่วงตั้งครรภ์ คุณแม่ควรให้ความสำคัญกับการเลือกรับประทานอาหารเป็นพิเศษ เพราะสารอาหารที่ได้รับนั้นจะส่งผลทั้งต่อสุขภาพของแม่และพัฒนาการของลูกน้อยในครรภ์ หนึ่งในพฤติกรรมที่ควรระมัดระวังคือการรับประทานอาหารเค็มหรือโซเดียมสูง ซึ่งสามารถส่งผลกระทบต่อร่างกายได้อย่างรุนแรง บทความนี้จะนำเสนอถึงผลกระทบของอาหารเค็มที่อาจเกิดขึ้น พร้อมแนวทางป้องกันเพื่อให้คุณแม่ตั้งครรภ์สามารถดูแลสุขภาพได้อย่างเหมาะสม


เนื้อหาอย่างละเอียด

1. อาหารเค็มคืออะไร และแหล่งที่มาของโซเดียมในอาหาร

อาหารเค็มหมายถึงอาหารที่มีปริมาณเกลือหรือโซเดียมสูง ซึ่งพบได้ในอาหารหลายประเภท เช่น:

  • อาหารแปรรูป: ไส้กรอก แฮม เบคอน อาหารกระป๋อง
  • ขนมขบเคี้ยว: มันฝรั่งทอด ข้าวเกรียบ
  • อาหารหมักดอง: ผักดอง ไข่เค็ม ปลาเค็ม
  • อาหารจานด่วน: เบอร์เกอร์ ไก่ทอด พิซซ่า
  • เครื่องปรุงรส: ซอสปรุงรส น้ำปลา ซีอิ๊ว

โซเดียมเป็นแร่ธาตุที่ร่างกายต้องการเพียงเล็กน้อยเพื่อรักษาสมดุลของน้ำและการทำงานของระบบประสาท แต่เมื่อได้รับในปริมาณมากเกินไปจะเกิดผลกระทบต่อสุขภาพ


2. ผลของการบริโภคอาหารเค็มต่อสุขภาพของคุณแม่ตั้งครรภ์

การบริโภคเกลือหรือโซเดียมในปริมาณมากเกินความจำเป็นอาจส่งผลเสียต่าง ๆ ดังนี้:

2.1 ความดันโลหิตสูง (Hypertension)

  • เกลือทำให้ร่างกายกักเก็บน้ำมากขึ้น ซึ่งเพิ่มปริมาณเลือดและทำให้หัวใจทำงานหนัก
  • ความดันโลหิตสูงในช่วงตั้งครรภ์เสี่ยงต่อภาวะครรภ์เป็นพิษ (Preeclampsia) ซึ่งเป็นอันตรายทั้งต่อแม่และทารก

2.2 อาการบวมน้ำ

  • การกินเค็มทำให้ไตทำงานหนักขึ้น ร่างกายกักเก็บน้ำส่วนเกินไว้ ทำให้มือ เท้า ขา บวม
  • อาการบวมน้ำทำให้แม่ตั้งครรภ์รู้สึกไม่สบายตัว เคลื่อนไหวลำบาก

2.3 เสี่ยงต่อโรคไต

  • ไตต้องกรองโซเดียมออกจากร่างกาย หากทำงานหนักเกินไปจะเสี่ยงต่อการเกิดโรคไตเรื้อรัง
  • ในคุณแม่ที่เป็นโรคไตมาก่อน การกินเค็มจะทำให้อาการแย่ลง

2.4 กระทบพัฒนาการของทารกในครรภ์

  • ความดันโลหิตสูงและภาวะครรภ์เป็นพิษจากการกินเค็ม ทำให้เลือดไปเลี้ยงทารกลดลง ส่งผลให้ทารกเจริญเติบโตช้า
  • โซเดียมสูงอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อภาวะแท้งหรือคลอดก่อนกำหนด

3. ปริมาณโซเดียมที่เหมาะสมสำหรับแม่ตั้งครรภ์

  • องค์การอนามัยโลก (WHO) แนะนำให้ผู้ใหญ่บริโภคโซเดียมไม่เกิน 2,000 มิลลิกรัมต่อวัน (ประมาณ 1 ช้อนชาเกลือ)
  • สำหรับแม่ตั้งครรภ์ควรลดการบริโภคโซเดียมให้ใกล้เคียงปริมาณที่แนะนำ เพื่อลดความเสี่ยงจากโรคต่าง ๆ

4. วิธีลดการบริโภคอาหารเค็มในช่วงตั้งครรภ์

เพื่อสุขภาพที่ดี คุณแม่สามารถลดการบริโภคโซเดียมได้ดังนี้:

  • อ่านฉลากโภชนาการ: ตรวจสอบปริมาณโซเดียมในอาหารสำเร็จรูป
  • ทำอาหารเอง: ลดการใช้เครื่องปรุงรส เช่น น้ำปลา ซีอิ๊ว
  • เลือกของว่างสุขภาพดี: แทนที่จะกินขนมขบเคี้ยว ลองเปลี่ยนเป็นผลไม้สดหรือถั่วไม่ใส่เกลือ
  • ดื่มน้ำสะอาดให้มากขึ้น: ช่วยขับโซเดียมออกจากร่างกาย
  • หลีกเลี่ยงอาหารหมักดองและแปรรูป

5. ตัวอย่างเมนูอาหารโซเดียมต่ำสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์

มื้อเช้า

  • ข้าวต้มปลาใส่ผัก ไม่เติมน้ำปลา
  • ไข่คนกับผักโขม

มื้อกลางวัน

  • สลัดผักสดกับน้ำสลัดแบบโฮมเมด
  • ต้มจืดฟักเขียวใส่ไก่สับ

มื้อเย็น

  • ปลาอบสมุนไพร
  • ผัดผักรวมกุ้งสด โดยใช้น้ำมันมะกอกและกระเทียม

ของว่าง

  • กล้วยหอม
  • แอปเปิ้ลหั่นชิ้น

6. การตรวจสุขภาพและคำแนะนำจากแพทย์

หากคุณแม่ตั้งครรภ์มีความดันโลหิตสูงหรือภาวะบวมน้ำ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อวางแผนการรับประทานอาหารที่เหมาะสม รวมถึงการตรวจสุขภาพเป็นประจำ


สรุป
การรับประทานอาหารเค็มหรือโซเดียมสูงในช่วงตั้งครรภ์ส่งผลกระทบอย่างมากต่อสุขภาพของคุณแม่และทารกในครรภ์ ตั้งแต่ความดันโลหิตสูง ภาวะบวมน้ำ ไปจนถึงความเสี่ยงของภาวะครรภ์เป็นพิษ การลดการบริโภคอาหารเค็มจึงเป็นสิ่งสำคัญที่คุณแม่ควรให้ความใส่ใจ พร้อมทั้งเลือกอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ เพื่อให้การตั้งครรภ์เป็นไปอย่างราบรื่นและปลอดภัย

 

You may also like

Share via