ปัญหาอาการมือชาและวิธีบรรเทาสำหรับผู้หญิงตั้งครรภ์

ปัญหาอาการมือชาและวิธีบรรเทาสำหรับผู้หญิงตั้งครรภ์

by babyandmomthai.com

ปัญหาอาการมือชาและวิธีบรรเทาสำหรับผู้หญิงตั้งครรภ์


บทนำ

อาการมือชาเป็นปัญหาที่พบได้บ่อยในช่วงตั้งครรภ์ โดยเฉพาะในไตรมาสที่สองและสาม สาเหตุหลักมักเกิดจากการเปลี่ยนแปลงทางสรีระและระบบไหลเวียนโลหิต รวมถึงการกักเก็บน้ำในร่างกาย ทำให้เส้นประสาทถูกกดทับ ส่งผลให้เกิดความรู้สึกชา ปวด หรือเสียวแปลบบริเวณมือ นิ้ว และข้อมือ

แม้อาการมือชาจะไม่เป็นอันตรายร้ายแรง แต่ก็อาจทำให้คุณแม่รู้สึกไม่สบายตัว และส่งผลต่อการทำกิจวัตรประจำวัน บทความนี้จะอธิบายสาเหตุของอาการมือชา พร้อมวิธีการบรรเทาอย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์


เนื้อหา

1. สาเหตุของอาการมือชาในช่วงตั้งครรภ์

อาการมือชามักเกิดขึ้นจากปัจจัยหลายประการ ดังนี้:

  1. การกักเก็บน้ำ (Edema):
    • ในช่วงตั้งครรภ์ ร่างกายจะกักเก็บน้ำมากขึ้น ทำให้เนื้อเยื่อบวมและกดทับเส้นประสาทบริเวณมือและข้อมือ
  2. กลุ่มอาการเส้นประสาทถูกกดทับที่ข้อมือ (Carpal Tunnel Syndrome):
    • เป็นภาวะที่เส้นประสาทมีเดียนถูกกดทับในช่องข้อมือ ทำให้เกิดอาการชา เสียวแปลบ หรือปวด
  3. การไหลเวียนเลือดที่เปลี่ยนแปลง:
    • ระหว่างตั้งครรภ์ ปริมาณเลือดเพิ่มขึ้นและระบบไหลเวียนทำงานหนักขึ้น ทำให้เลือดไหลเวียนได้ช้าลงในบางส่วน
  4. การเพิ่มของน้ำหนักตัว:
    • น้ำหนักที่เพิ่มขึ้นทำให้เกิดแรงกดทับต่อเส้นประสาท โดยเฉพาะขณะนอนหลับหรือยืนนานๆ
  5. ท่าทางที่ไม่เหมาะสม:
    • การนั่งหรือทำงานในท่าที่ไม่ถูกต้องอาจเพิ่มแรงกดทับที่มือและข้อมือ

2. อาการที่พบบ่อยของภาวะมือชา

  • รู้สึกชาหรือเสียวแปลบที่มือและนิ้วมือ
  • มีอาการปวดข้อมือและมือ โดยเฉพาะตอนกลางคืน
  • กล้ามเนื้ออ่อนแรง จับสิ่งของได้ไม่ถนัด
  • บางรายอาจมีอาการบวมที่มือร่วมด้วย

3. วิธีบรรเทาอาการมือชาในช่วงตั้งครรภ์

  1. การบริหารมือและข้อมือ
    • ทำท่าบริหารเพื่อยืดกล้ามเนื้อและเส้นประสาทที่ข้อมือ
    • ท่าที่แนะนำ:
      1. กำและแบมือ: กำมือแน่นๆ แล้วคลายออกช้าๆ ทำซ้ำ 10 ครั้ง
      2. หมุนข้อมือ: หมุนข้อมือเป็นวงกลมตามเข็มนาฬิกาและทวนเข็มนาฬิกา 10 ครั้ง
      3. ยืดนิ้วมือ: ใช้มืออีกข้างดึงนิ้วมือเบาๆ ให้ตึง
  2. ปรับเปลี่ยนท่านอน
    • หลีกเลี่ยงการนอนทับแขนหรือนอนในท่าที่ทำให้ข้อมือถูกกดทับ
    • นอนตะแคงซ้ายและใช้หมอนหนุนแขนเพื่อให้ข้อมืออยู่ในท่าที่สบาย
  3. ประคบอุ่นหรือเย็น
    • ประคบอุ่นเพื่อผ่อนคลายกล้ามเนื้อ หรือประคบเย็นเพื่อลดอาการบวมที่ข้อมือ
  4. สวมเฝือกพยุงข้อมือ (Wrist Splint)
    • การสวมเฝือกพยุงข้อมือช่วยป้องกันไม่ให้ข้อมืองอเกินไป และลดแรงกดทับเส้นประสาท
  5. นวดมือและข้อมือ
    • นวดเบาๆ บริเวณมือ ข้อมือ และแขน ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนเลือดและลดการกดทับของเส้นประสาท
  6. หลีกเลี่ยงการใช้มือทำงานหนัก
    • หลีกเลี่ยงการจับหรือบีบสิ่งของแน่นเกินไป เช่น การพิมพ์งานนานๆ การยกของหนัก
  7. ดื่มน้ำให้เพียงพอ
    • การดื่มน้ำช่วยลดการกักเก็บน้ำในร่างกายและบรรเทาอาการบวม
  8. รับประทานอาหารที่มีวิตามินบำรุงเส้นประสาท
    • เน้นอาหารที่มี วิตามินบี6 และ แมกนีเซียม เช่น
      • กล้วย อะโวคาโด ผักโขม ข้าวกล้อง ถั่วต่างๆ
    • ช่วยบำรุงเส้นประสาทและลดอาการชาตามมือและเท้า

4. การป้องกันอาการมือชาในระหว่างตั้งครรภ์

  1. หมั่นเปลี่ยนท่าทางบ่อยๆ ระหว่างทำงานหรือพักผ่อน
  2. ยืดกล้ามเนื้อและออกกำลังกายเบาๆ เป็นประจำ
  3. หลีกเลี่ยงการกดทับข้อมือและมือ เช่น การถือของหนัก
  4. ใช้อุปกรณ์ช่วย เช่น เฝือกพยุงข้อมือในกรณีที่มีอาการเรื้อรัง
  5. พักผ่อนให้เพียงพอและจัดท่านอนให้เหมาะสม

5. เมื่อใดควรพบแพทย์

หากคุณแม่มีอาการต่อไปนี้ ควรรีบพบแพทย์ทันที:

  • อาการชารุนแรงจนไม่สามารถทำกิจวัตรประจำวันได้
  • มีอาการปวดและบวมที่ข้อมืออย่างต่อเนื่อง
  • กล้ามเนื้อมืออ่อนแรงและใช้งานไม่ได้
  • มีอาการชาร่วมกับอาการอื่น เช่น ปวดศีรษะหรือหน้ามืด

สรุป

อาการมือชาเป็นภาวะที่พบได้บ่อยในช่วงตั้งครรภ์ ซึ่งเกิดจากการเปลี่ยนแปลงทางสรีระและระบบไหลเวียนเลือด คุณแม่สามารถบรรเทาอาการได้ด้วยการยืดกล้ามเนื้อ ประคบอุ่นหรือเย็น นวดมือและข้อมือ และปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการทำงานให้เหมาะสม หากอาการไม่ดีขึ้นหรือรุนแรงขึ้น ควรรีบพบแพทย์เพื่อรับคำแนะนำและการรักษาที่เหมาะสม เพื่อให้คุณแม่มีสุขภาพที่ดีตลอดการตั้งครรภ์

 

You may also like

Share via