“ทำไมความทรงจำถึงลดลงในช่วงตั้งครรภ์? อิทธิพลของฮอร์โมนต่อสมอง”

"ทำไมความทรงจำถึงลดลงในช่วงตั้งครรภ์? อิทธิพลของฮอร์โมนต่อสมอง"

by babyandmomthai.com

“ทำไมความทรงจำถึงลดลงในช่วงตั้งครรภ์? อิทธิพลของฮอร์โมนต่อสมอง”


บทนำ

คุณแม่ตั้งครรภ์หลายคนอาจเคยประสบกับอาการขี้ลืม หรือที่เรียกกันเล่น ๆ ว่า “Mommy Brain” ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงตั้งครรภ์และบางครั้งยังคงอยู่ในช่วงหลังคลอด หลายคนสงสัยว่าเหตุใดความทรงจำและความสามารถในการจดจ่อถึงลดลงในช่วงนี้ บทความนี้จะสำรวจผลกระทบของฮอร์โมนที่เปลี่ยนแปลงต่อสมองของแม่ตั้งครรภ์ และให้คำแนะนำในการรับมือกับภาวะดังกล่าว


เนื้อหา

1. “Mommy Brain” คืออะไร?

“Mommy Brain” หมายถึงภาวะที่คุณแม่ตั้งครรภ์หรือคุณแม่มือใหม่รู้สึกว่าความสามารถในการจดจำและการจัดการข้อมูลลดลง ตัวอย่างเช่น:

  • ลืมสิ่งที่ต้องทำในแต่ละวัน
  • สับสนหรือขาดสมาธิเมื่อทำงาน
  • ต้องใช้เวลานานขึ้นในการตัดสินใจหรือแก้ปัญหา

อาการเหล่านี้อาจทำให้คุณแม่รู้สึกหงุดหงิดหรือวิตกกังวลเกี่ยวกับความสามารถของตัวเอง


2. ฮอร์โมนที่ส่งผลต่อสมอง

การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนในช่วงตั้งครรภ์มีผลกระทบโดยตรงต่อการทำงานของสมอง โดยเฉพาะในส่วนของความจำและการจัดการข้อมูล:

  • โปรเจสเตอโรน:
    ระดับโปรเจสเตอโรนที่สูงขึ้นส่งผลต่อระบบประสาทส่วนกลาง ทำให้เกิดอาการเหนื่อยล้าและลดสมาธิ
  • เอสโตรเจน:
    ฮอร์โมนนี้ช่วยเสริมสร้างการไหลเวียนของเลือดในสมอง แต่การเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วอาจทำให้เกิดความไม่สมดุลของการทำงานในสมองชั่วคราว
  • ออกซิโทซิน:
    ฮอร์โมนแห่งความรักนี้ช่วยเสริมสร้างความผูกพันระหว่างแม่และลูก แต่ก็อาจส่งผลให้คุณแม่โฟกัสกับความรู้สึกมากกว่าความจำ
  • คอร์ติซอล (ฮอร์โมนความเครียด):
    ระดับที่สูงขึ้นในช่วงตั้งครรภ์อาจรบกวนการทำงานของฮิปโปแคมปัส ซึ่งเป็นส่วนที่เกี่ยวข้องกับการเก็บความทรงจำ

3. การเปลี่ยนแปลงในสมองช่วงตั้งครรภ์

สมองของแม่ตั้งครรภ์มีการเปลี่ยนแปลงในเชิงโครงสร้างเพื่อเตรียมตัวสำหรับการเลี้ยงดูทารก:

  • ลดขนาดในบางส่วน:
    การลดลงของปริมาณเนื้อสมองบางส่วนช่วยให้คุณแม่สามารถโฟกัสกับความต้องการของลูกน้อยมากขึ้น
  • การเพิ่มความไวต่ออารมณ์:
    สมองปรับตัวเพื่อทำให้คุณแม่ตอบสนองต่อเสียงร้องและความต้องการของลูกได้ดียิ่งขึ้น

4. ผลกระทบต่อความจำและการตัดสินใจ

การเปลี่ยนแปลงในสมองและฮอร์โมนส่งผลต่อ:

  • ความจำระยะสั้น:
    คุณแม่อาจลืมสิ่งที่เพิ่งพูดหรือทำไป
  • การวางแผน:
    การจัดการตารางเวลาอาจดูซับซ้อนขึ้น
  • การตัดสินใจ:
    ความไม่แน่นอนในกระบวนการคิดทำให้การตัดสินใจใช้เวลานานขึ้น

5. วิธีรับมือกับ “Mommy Brain”

แม้ “Mommy Brain” จะเป็นเรื่องปกติ แต่คุณแม่สามารถจัดการได้ด้วยวิธีต่อไปนี้:

  • จดบันทึก:
    ใช้สมุดบันทึกหรือแอปพลิเคชันช่วยจำเพื่อจัดการงานและนัดหมาย
  • พักผ่อนให้เพียงพอ:
    การนอนหลับที่ดีช่วยฟื้นฟูสมองและลดความเหนื่อยล้า
  • จัดลำดับความสำคัญ:
    ทำงานที่สำคัญก่อน และปล่อยให้ตัวเองได้พักเมื่อจำเป็น
  • ฝึกสมาธิ:
    การฝึกสติและการหายใจลึกช่วยเพิ่มสมาธิและลดความเครียด
  • ขอความช่วยเหลือ:
    หากรู้สึกว่าภาระงานหนักเกินไป การขอความช่วยเหลือจากคนรอบข้างเป็นสิ่งสำคัญ

6. เมื่อใดควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ

หากอาการขี้ลืมหรือขาดสมาธิรุนแรงจนกระทบชีวิตประจำวัน ควรปรึกษาแพทย์หรือที่ปรึกษาด้านจิตวิทยา โดยเฉพาะหากมีอาการต่อไปนี้:

  • รู้สึกเศร้าหรือหมดกำลังใจเป็นเวลานาน
  • ไม่สามารถทำกิจวัตรประจำวันได้อย่างปกติ
  • มีความวิตกกังวลหรือความเครียดที่ควบคุมไม่ได้

สรุป

“Mommy Brain” เป็นผลกระทบที่เกิดจากฮอร์โมนและการเปลี่ยนแปลงของสมองในช่วงตั้งครรภ์ แม้ว่าจะทำให้คุณแม่รู้สึกขี้ลืมหรือสับสน แต่เป็นภาวะปกติที่เกิดขึ้นชั่วคราว การดูแลตัวเองและการปรับตัวด้วยวิธีที่เหมาะสมจะช่วยให้คุณแม่สามารถรับมือกับการเปลี่ยนแปลงนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมก้าวสู่บทบาทใหม่ในชีวิตด้วยความมั่นใจ

 

You may also like

Share via