การฝึกเทคนิคการยืนและเดินให้ถูกต้องหลังคลอดเพื่อป้องกันอาการปวดหลัง

การฝึกเทคนิคการยืนและเดินให้ถูกต้องหลังคลอดเพื่อป้องกันอาการปวดหลัง

by babyandmomthai.com

การฝึกเทคนิคการยืนและเดินให้ถูกต้องหลังคลอดเพื่อป้องกันอาการปวดหลัง


บทนำ

หลังคลอดลูก ร่างกายของคุณแม่ต้องฟื้นตัวจากการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นระหว่างตั้งครรภ์และการคลอด การที่กระดูกเชิงกรานและกล้ามเนื้อหน้าท้องยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่อาจส่งผลให้คุณแม่มีอาการปวดหลังได้ การฝึกเทคนิคการยืนและเดินอย่างถูกต้องเป็นวิธีที่ช่วยลดความเสี่ยงต่ออาการปวดหลัง และช่วยฟื้นฟูกล้ามเนื้อให้กลับมาแข็งแรงได้เร็วขึ้น บทความนี้จะแนะนำเทคนิคการยืนและเดินที่เหมาะสมสำหรับคุณแม่หลังคลอด


เนื้อหา

  1. สาเหตุที่คุณแม่หลังคลอดมักมีอาการปวดหลัง
    • การเปลี่ยนแปลงของกระดูกเชิงกราน:
      • ระหว่างตั้งครรภ์ กระดูกเชิงกรานจะขยายตัวและยังไม่กลับเข้าสู่ตำแหน่งเดิมหลังคลอด
    • กล้ามเนื้อหน้าท้องและหลังอ่อนแรง:
      • น้ำหนักที่เพิ่มขึ้นและการยืดตัวของกล้ามเนื้อหน้าท้องทำให้กล้ามเนื้อหลังต้องทำงานหนักขึ้น
    • ท่าทางที่ไม่ถูกต้อง:
      • การยืนหรือเดินผิดท่าอาจเพิ่มแรงกดดันต่อกระดูกสันหลัง
    • การอุ้มลูกบ่อยครั้ง:
      • การอุ้มลูกในท่าที่ไม่เหมาะสมอาจทำให้หลังและไหล่ตึง
  2. หลักการยืนและเดินที่ถูกต้องหลังคลอด
    • การยืน:
      • ยืนให้เท้าห่างกันประมาณช่วงไหล่ เพื่อกระจายน้ำหนักอย่างสมดุล
      • งอเข่าเล็กน้อยและอย่าล็อกเข่า
      • เก็บหน้าท้องเล็กน้อยเพื่อช่วยพยุงกระดูกสันหลัง
      • ไหล่ควรผ่อนคลาย ไม่ยกสูงหรือลู่ไปข้างหน้า
    • การเดิน:
      • เดินโดยให้ส้นเท้าสัมผัสพื้นก่อนแล้วจึงลงน้ำหนักไปที่ปลายเท้า
      • รักษาท่าทางหลังตรง ไม่โค้งหรือแอ่นเกินไป
      • ก้าวเดินให้สมดุล ไม่ก้าวเท้ายาวเกินไป
  3. เทคนิคการฝึกยืนและเดินเพื่อป้องกันอาการปวดหลัง
    • ท่า Posture Check:
      • ยืนหน้ากระจก หันด้านข้างเพื่อดูแนวกระดูกสันหลัง
      • ปรับให้ศีรษะ ไหล่ สะโพก และข้อเท้าอยู่ในแนวเดียวกัน
    • การฝึกเดินด้วยน้ำหนักสมดุล:
      • ใช้ถุงทรายเบา ๆ วางบนศีรษะขณะเดิน เพื่อช่วยฝึกการทรงตัวและปรับท่าเดิน
    • การยืดกล้ามเนื้อหลังการยืนหรือเดิน:
      • ฝึกท่ายืดกล้ามเนื้อหลัง เช่น ท่า Cat-Cow หรือ Child’s Pose เพื่อคลายความตึงเครียด
  4. ท่าทางที่ควรหลีกเลี่ยง
    • การยืนแอ่นหลัง:
      • การยืนที่น้ำหนักลงไปที่หลังส่วนล่างมากเกินไปอาจเพิ่มความเสี่ยงต่ออาการปวดหลัง
    • การเดินเขย่งเท้า:
      • ทำให้กล้ามเนื้อน่องและข้อต่อสะโพกทำงานหนักเกินไป
    • การยืนไขว่ห้าง:
      • เพิ่มแรงกดดันที่ไม่สมดุลในกระดูกเชิงกราน
  5. การเสริมสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อที่สนับสนุนกระดูกสันหลัง
    • ท่า Pelvic Tilt:
      • นอนหงาย งอเข่า วางเท้าราบกับพื้น
      • ดันสะโพกขึ้นและลงเบา ๆ ค้างไว้ 5-10 วินาที
      • ช่วยเสริมความแข็งแรงของกล้ามเนื้อหน้าท้องและลดอาการปวดหลัง
    • ท่า Bridge Pose:
      • นอนหงาย ชันเข่า ยกสะโพกขึ้นจนลำตัวตรง ค้างไว้ 10-15 วินาที
      • ช่วยเสริมความแข็งแรงของกล้ามเนื้อหลังและสะโพก
    • ท่า Bird Dog:
      • คุกเข่าและวางมือบนพื้น
      • ยกแขนและขาตรงข้ามขึ้นพร้อมกัน ค้างไว้ 5 วินาที
      • ช่วยเพิ่มความสมดุลและเสริมความแข็งแรงของกล้ามเนื้อแกนกลาง
  6. เคล็ดลับเพิ่มเติมในการป้องกันอาการปวดหลัง
    • ใส่รองเท้าที่เหมาะสม:
      • เลือกรองเท้าที่มีพื้นรองรับดีและช่วยลดแรงกระแทก
    • การอุ้มลูกในท่าที่เหมาะสม:
      • อุ้มลูกใกล้ตัวเพื่อกระจายน้ำหนักและลดแรงกดดันที่หลัง
    • พักผ่อนให้เพียงพอ:
      • ให้ร่างกายมีเวลาฟื้นตัวจากความเหนื่อยล้า
    • การใช้หมอนรองหลัง:
      • ใช้หมอนรองหลังขณะนั่งเพื่อช่วยรักษาท่าทาง
  7. เมื่อใดที่ควรปรึกษาแพทย์
    • อาการปวดหลังรุนแรงจนรบกวนการใช้ชีวิตประจำวัน
    • มีอาการชาหรืออ่อนแรงในขาหรือสะโพก
    • อาการปวดหลังไม่ดีขึ้นหลังจากปรับพฤติกรรม

สรุป

การฝึกเทคนิคการยืนและเดินที่ถูกต้องเป็นสิ่งสำคัญในการป้องกันอาการปวดหลังและฟื้นฟูกล้ามเนื้อหลังคลอด คุณแม่สามารถเริ่มจากการปรับท่าทาง ยืนและเดินอย่างสมดุล และเสริมด้วยการออกกำลังกายเบา ๆ ที่ช่วยเพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ หากอาการปวดหลังยังคงอยู่ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับคำแนะนำเพิ่มเติม การดูแลร่างกายอย่างเหมาะสมช่วยให้คุณแม่มีสุขภาพดีและพร้อมดูแลลูกน้อยได้อย่างเต็มที่

 

You may also like

Share via