การดูแลสุขภาพฟันและเหงือกในระหว่างตั้งครรภ์

การดูแลสุขภาพฟันและเหงือกในระหว่างตั้งครรภ์

by babyandmomthai.com

การดูแลสุขภาพฟันและเหงือกในระหว่างตั้งครรภ์

บทนำ

การดูแลสุขภาพฟันและเหงือกในระหว่างตั้งครรภ์เป็นสิ่งสำคัญที่มักถูกมองข้าม แต่การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนและพฤติกรรมการกินสามารถเพิ่มความเสี่ยงของปัญหาช่องปาก เช่น โรคเหงือกอักเสบหรือฟันผุได้ การใส่ใจดูแลสุขภาพช่องปากไม่เพียงช่วยให้คุณแม่รู้สึกสบายตัว แต่ยังส่งผลดีต่อสุขภาพของทารกในครรภ์ด้วย บทความนี้จะแนะนำวิธีดูแลฟันและเหงือกระหว่างตั้งครรภ์อย่างเหมาะสม


เนื้อหา

1. ผลกระทบของการตั้งครรภ์ต่อสุขภาพช่องปาก

  • เหงือกอักเสบจากการตั้งครรภ์ (Pregnancy Gingivitis)
    ฮอร์โมนเอสโตรเจนและโปรเจสเตอโรนที่เพิ่มขึ้นทำให้เหงือกบวมแดงและอักเสบได้ง่าย
  • ฟันผุ
    การเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรมการกิน เช่น การกินของหวานบ่อยครั้ง อาจเพิ่มความเสี่ยงของฟันผุ
  • ภาวะกรดกัดฟัน
    การอาเจียนจากอาการแพ้ท้องทำให้กรดในกระเพาะอาหารมาสัมผัสกับฟันและทำลายเคลือบฟัน

2. วิธีดูแลฟันและเหงือกระหว่างตั้งครรภ์

  • แปรงฟันและใช้ไหมขัดฟันเป็นประจำ
    • แปรงฟันอย่างน้อยวันละ 2 ครั้งด้วยยาสีฟันที่มีฟลูออไรด์
    • ใช้ไหมขัดฟันทุกวันเพื่อกำจัดคราบพลัคระหว่างซอกฟัน
  • บ้วนปากหลังอาเจียน
    • บ้วนปากด้วยน้ำสะอาดหรือน้ำผสมเบกกิ้งโซดา (1 ช้อนชาต่อน้ำ 1 แก้ว) เพื่อลดกรดในช่องปาก
    • หลีกเลี่ยงการแปรงฟันทันทีหลังอาเจียนเพราะอาจทำให้เคลือบฟันสึกกร่อนได้
  • ตรวจสุขภาพช่องปากเป็นประจำ
    • พบแพทย์ทันตกรรมอย่างน้อย 1 ครั้งระหว่างตั้งครรภ์เพื่อประเมินสุขภาพช่องปาก
    • แจ้งทันตแพทย์ว่าคุณกำลังตั้งครรภ์เพื่อให้การรักษาเหมาะสม

3. การรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพช่องปากที่ดี

  • อาหารที่อุดมด้วยแคลเซียม
    • เช่น นม โยเกิร์ต และชีส ช่วยเสริมสร้างฟันและกระดูกให้แข็งแรง
  • อาหารที่มีวิตามินซี
    • เช่น ส้ม สตรอเบอร์รี่ และพริกหวาน ช่วยเสริมสร้างเนื้อเยื่อเหงือก
  • ลดการบริโภคน้ำตาล
    • หลีกเลี่ยงของหวานและเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลสูง

4. การจัดการกับปัญหาช่องปากในระหว่างตั้งครรภ์

  • เหงือกบวมและเลือดออก
    • ใช้แปรงสีฟันที่มีขนแปรงนุ่มและทำความสะอาดฟันอย่างเบามือ
  • ฟันผุ
    • ลดการกินของหวานและแปรงฟันทันทีหลังรับประทานอาหาร
  • กลิ่นปาก
    • ดื่มน้ำบ่อย ๆ และเคี้ยวหมากฝรั่งปราศจากน้ำตาลเพื่อกระตุ้นการหลั่งน้ำลาย

5. เมื่อไรที่ควรปรึกษาทันตแพทย์

  • มีอาการปวดฟันหรือเหงือกอย่างรุนแรง
  • เหงือกบวมแดงและมีเลือดออกง่าย
  • มีกลิ่นปากหรือรสขมในปากอย่างต่อเนื่อง
  • มีฟันผุหรือฟันหักที่ส่งผลกระทบต่อการเคี้ยวอาหาร

6. เคล็ดลับเพิ่มเติมสำหรับการดูแลฟันและเหงือก

  • ใช้ยาสีฟันที่ออกแบบมาเพื่อเหงือกที่บอบบางหรือลดอาการอักเสบ
  • พกน้ำยาบ้วนปากที่ไม่มีแอลกอฮอล์สำหรับการทำความสะอาดช่องปากระหว่างวัน
  • ปรึกษาทันตแพทย์เกี่ยวกับการป้องกันฟันผุ เช่น การเคลือบฟลูออไรด์

สรุป

การดูแลสุขภาพฟันและเหงือกในระหว่างตั้งครรภ์ช่วยลดความเสี่ยงของปัญหาช่องปากที่อาจเกิดขึ้นและส่งผลดีต่อสุขภาพโดยรวมของแม่และทารก การแปรงฟันอย่างถูกวิธี การตรวจสุขภาพช่องปากเป็นประจำ และการเลือกรับประทานอาหารที่เหมาะสมเป็นขั้นตอนสำคัญที่ช่วยให้คุณแม่ตั้งครรภ์มีสุขภาพช่องปากที่ดีตลอดการตั้งครรภ์

 

You may also like

Share via