การจัดการกับอาการท้องผูกในระหว่างตั้งครรภ์

การจัดการกับอาการท้องผูกในระหว่างตั้งครรภ์

by babyandmomthai.com

การจัดการกับอาการท้องผูกในระหว่างตั้งครรภ์

บทนำ

อาการท้องผูกเป็นปัญหาที่พบบ่อยในระหว่างตั้งครรภ์ โดยเฉพาะในช่วงไตรมาสที่สองและสาม สาเหตุเกิดจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน การขยายตัวของมดลูกที่กดทับลำไส้ และการรับประทานธาตุเหล็กในรูปของอาหารเสริม แม้ว่าอาการนี้จะไม่เป็นอันตรายร้ายแรง แต่ก็ทำให้คุณแม่รู้สึกไม่สบายตัว บทความนี้จะแนะนำสาเหตุ วิธีป้องกัน และการบรรเทาอาการท้องผูกในระหว่างตั้งครรภ์


เนื้อหา

1. สาเหตุของอาการท้องผูกในระหว่างตั้งครรภ์

  • การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน
    ฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนที่เพิ่มขึ้นทำให้การบีบตัวของลำไส้ช้าลง ส่งผลให้เกิดอาการท้องผูก
  • แรงกดดันจากมดลูก
    มดลูกที่ขยายตัวอาจกดทับลำไส้ ทำให้ระบบย่อยอาหารทำงานช้าลง
  • การรับประทานธาตุเหล็ก
    อาหารเสริมธาตุเหล็กที่จำเป็นในระหว่างตั้งครรภ์อาจทำให้ลำไส้เคลื่อนตัวช้าลง
  • การดื่มน้ำไม่เพียงพอ
    การขาดน้ำทำให้ลำไส้ดูดซึมน้ำจากอุจจาระมากขึ้น ทำให้อุจจาระแข็งและขับถ่ายยาก

2. วิธีป้องกันอาการท้องผูกในระหว่างตั้งครรภ์

  • เพิ่มใยอาหารในอาหารประจำวัน
    • รับประทานผักผลไม้สด เช่น มะละกอ กีวี และแอปเปิ้ล
    • เลือกข้าวกล้อง ขนมปังโฮลวีต และธัญพืชเต็มเมล็ด
  • ดื่มน้ำให้เพียงพอ
    • ดื่มน้ำประมาณ 8-10 แก้วต่อวัน เพื่อช่วยให้อุจจาระนิ่มและขับถ่ายง่ายขึ้น
    • ดื่มน้ำอุ่นหรือน้ำผสมน้ำมะนาวในตอนเช้าเพื่อกระตุ้นการทำงานของลำไส้
  • ออกกำลังกายเบา ๆ
    • การเดิน การว่ายน้ำ หรือโยคะสำหรับหญิงตั้งครรภ์ช่วยกระตุ้นการเคลื่อนไหวของลำไส้
  • หลีกเลี่ยงการกลั้นอุจจาระ
    • เมื่อรู้สึกปวดควรเข้าห้องน้ำทันที เพื่อป้องกันการสะสมของอุจจาระ

3. วิธีบรรเทาอาการท้องผูกในระหว่างตั้งครรภ์

  • ใช้วิธีธรรมชาติ
    • ดื่มน้ำพรุนหรือน้ำลูกแพร์เพื่อช่วยกระตุ้นการขับถ่าย
    • กินโยเกิร์ตที่มีโปรไบโอติกช่วยปรับสมดุลแบคทีเรียในลำไส้
  • ปรับอาหารเสริมธาตุเหล็ก
    • หากธาตุเหล็กทำให้เกิดอาการท้องผูก ควรปรึกษาแพทย์เพื่อเปลี่ยนเป็นรูปแบบที่ย่อยง่ายขึ้น
  • ใช้ยาที่ปลอดภัยสำหรับหญิงตั้งครรภ์
    • หากอาการท้องผูกรุนแรง ควรปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับการใช้ยาระบายที่ปลอดภัย

4. อาการที่ควรระวังและปรึกษาแพทย์ทันที

  • อาการปวดท้องรุนแรงหรืออาการที่ไม่ดีขึ้นแม้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม
  • มีเลือดออกขณะขับถ่าย
  • อาการท้องผูกที่ส่งผลต่อความเป็นอยู่และการใช้ชีวิตประจำวัน

5. เคล็ดลับเพิ่มเติม

  • กินอาหารเป็นมื้อเล็ก ๆ แต่บ่อยครั้ง เพื่อช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ดีขึ้น
  • หลีกเลี่ยงการบริโภคอาหารที่อาจทำให้เกิดแก๊สหรือย่อยยาก เช่น อาหารทอดและอาหารแปรรูป
  • พยายามจัดเวลาสำหรับการขับถ่ายในช่วงเช้าหรือเวลาเดียวกันทุกวัน เพื่อสร้างนิสัยการขับถ่ายที่สม่ำเสมอ

สรุป

อาการท้องผูกในระหว่างตั้งครรภ์เป็นปัญหาที่สามารถจัดการได้ด้วยการดูแลโภชนาการ การดื่มน้ำ การออกกำลังกาย และการปรับพฤติกรรมการขับถ่าย หากอาการยังคงรุนแรงหรือมีอาการผิดปกติ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อหาวิธีการรักษาที่เหมาะสม การดูแลตัวเองอย่างเหมาะสมช่วยให้คุณแม่ตั้งครรภ์รู้สึกสบายตัวและมีสุขภาพที่ดีตลอดการตั้งครรภ์

 

You may also like

Share via