การจัดการกับอาการกล้ามเนื้ออ่อนแรงในช่วงตั้งครรภ์

การจัดการกับอาการกล้ามเนื้ออ่อนแรงในช่วงตั้งครรภ์

by babyandmomthai.com

การจัดการกับอาการกล้ามเนื้ออ่อนแรงในช่วงตั้งครรภ์


บทนำ

ในระหว่างตั้งครรภ์ ร่างกายของคุณแม่ต้องเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงต่างๆ มากมาย เช่น การเพิ่มของน้ำหนัก การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน และการขยายตัวของมดลูกที่ทำให้กล้ามเนื้อและข้อต่อถูกใช้งานหนักขึ้น ปัญหาที่ตามมาคือ อาการกล้ามเนื้ออ่อนแรง ซึ่งพบได้บ่อยในคุณแม่ตั้งครรภ์ โดยเฉพาะในช่วงไตรมาสที่สองและสาม

อาการกล้ามเนื้ออ่อนแรงส่งผลให้คุณแม่รู้สึกเหนื่อยล้าง่าย เคลื่อนไหวลำบาก และอาจทำให้เกิดอาการปวดเมื่อยร่วมด้วย หากไม่ได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อภาวะอื่นๆ เช่น ปวดหลังรุนแรง หรืออุบัติเหตุจากการลื่นล้ม

บทความนี้จะอธิบายถึงสาเหตุของอาการกล้ามเนื้ออ่อนแรงในช่วงตั้งครรภ์ พร้อมแนวทางจัดการและวิธีป้องกันเพื่อช่วยให้คุณแม่มีสุขภาพที่แข็งแรงตลอดการตั้งครรภ์


เนื้อหา

1. สาเหตุของอาการกล้ามเนื้ออ่อนแรงในช่วงตั้งครรภ์

  1. การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน:
    • ฮอร์โมน รีแลกซิน (Relaxin) ทำให้ข้อต่อและเอ็นยืดหยุ่นมากขึ้นเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการคลอด ส่งผลให้กล้ามเนื้อทำงานหนักขึ้นและอ่อนแรงได้ง่าย
  2. น้ำหนักที่เพิ่มขึ้น:
    • น้ำหนักตัวที่เพิ่มขึ้นทำให้กล้ามเนื้อ โดยเฉพาะบริเวณขา หลัง และสะโพก ต้องรับน้ำหนักมากขึ้น
  3. การไหลเวียนเลือดที่เปลี่ยนแปลง:
    • มดลูกที่ขยายตัวไปกดทับเส้นเลือดและเส้นประสาท ส่งผลให้เลือดไปเลี้ยงกล้ามเนื้อได้ไม่ดีพอ ทำให้เกิดอาการอ่อนแรง
  4. การขาดสารอาหาร:
    • การขาดแร่ธาตุที่สำคัญ เช่น แคลเซียม และ แมกนีเซียม ส่งผลให้กล้ามเนื้อทำงานผิดปกติและเกิดตะคริว
  5. การออกกำลังกายไม่เพียงพอ:
    • การขาดการออกกำลังกายทำให้กล้ามเนื้อไม่แข็งแรงและอ่อนแรงได้ง่าย
  6. ความเครียดและความเหนื่อยล้า:
    • ภาวะเครียดและการพักผ่อนไม่เพียงพอ ทำให้พลังงานในร่างกายลดลง

2. อาการที่บ่งบอกถึงกล้ามเนื้ออ่อนแรง

  • รู้สึกอ่อนแรง เคลื่อนไหวลำบาก
  • เมื่อยล้าโดยเฉพาะช่วงขา สะโพก และหลัง
  • กล้ามเนื้อสั่นหรือเกร็งง่าย
  • มีอาการตะคริวบ่อยครั้ง โดยเฉพาะเวลากลางคืน
  • รู้สึกว่าร่างกายไม่มีแรงแม้ทำกิจกรรมเบาๆ

3. วิธีจัดการกับอาการกล้ามเนื้ออ่อนแรงในช่วงตั้งครรภ์

  1. ออกกำลังกายเบาๆ อย่างสม่ำเสมอ
    • การออกกำลังกายช่วยเสริมความแข็งแรงของกล้ามเนื้อและกระตุ้นการไหลเวียนเลือด
    • ตัวอย่างการออกกำลังกายที่แนะนำ:
      • โยคะสำหรับคนท้อง: ช่วยยืดกล้ามเนื้อและลดความตึงของร่างกาย
      • การเดินเบาๆ: ช่วยให้กล้ามเนื้อขาและหลังแข็งแรงขึ้น
      • ว่ายน้ำ: ลดแรงกดทับต่อข้อต่อและกระดูก
  2. บริโภคอาหารที่มีสารอาหารครบถ้วน
    • เน้นอาหารที่อุดมด้วยแร่ธาตุที่ช่วยบำรุงกล้ามเนื้อ เช่น:
      • แคลเซียม: พบในนม ปลาเล็กปลาน้อย และผักใบเขียว
      • แมกนีเซียม: พบในถั่ว ธัญพืช และกล้วย
      • โปรตีน: ช่วยซ่อมแซมและเสริมสร้างกล้ามเนื้อ เช่น เนื้อสัตว์ ไข่ และถั่ว
  3. นวดบรรเทาอาการเมื่อยล้า
    • การนวดเบาๆ บริเวณที่มีอาการเมื่อยล้า เช่น หลัง ขา และสะโพก ช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อและกระตุ้นการไหลเวียนเลือด
  4. พักผ่อนให้เพียงพอ
    • นอนหลับอย่างน้อยวันละ 7-9 ชั่วโมง และจัดท่านอนให้เหมาะสม เช่น นอนตะแคงซ้ายเพื่อลดแรงกดทับ
  5. ยืดกล้ามเนื้อเป็นประจำ
    • การยืดกล้ามเนื้อช่วยลดอาการตึงและเสริมความแข็งแรงให้กับกล้ามเนื้อ เช่น:
      • ยืดน่องโดยเหยียดขาไปข้างหน้าแล้วกระดกปลายเท้า
      • ยืดหลังและสะโพกด้วยท่า Cat-Cow Stretch
  6. สวมรองเท้าที่เหมาะสม
    • ใช้รองเท้าที่รองรับน้ำหนักตัวได้ดี พื้นนุ่ม และไม่สูงเกิน 1-2 นิ้ว
  7. หลีกเลี่ยงการนั่งหรือยืนนานเกินไป
    • ควรลุกขึ้นยืดเส้นยืดสายทุกๆ 30 นาทีหากนั่งทำงานเป็นเวลานาน
  8. การประคบร้อน-เย็น
    • การประคบร้อนช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อที่ตึงตัว ส่วนการประคบเย็นช่วยลดอาการปวดและอักเสบ

4. การป้องกันอาการกล้ามเนื้ออ่อนแรงในช่วงตั้งครรภ์

  1. ดูแลโภชนาการให้สมดุล โดยรับประทานอาหารที่อุดมด้วยโปรตีนและแร่ธาตุ
  2. ออกกำลังกายสม่ำเสมอ เช่น เดินเบาๆ หรือว่ายน้ำ
  3. ดื่มน้ำให้เพียงพออย่างน้อยวันละ 8-10 แก้ว
  4. พักผ่อนให้เพียงพอ จัดท่านอนที่สบายเพื่อลดแรงกดทับ
  5. หลีกเลี่ยงการทำงานหนักหรือยกของหนักเกินไป
  6. หมั่นตรวจสุขภาพและแจ้งแพทย์หากมีอาการผิดปกติ

5. เมื่อไหร่ควรปรึกษาแพทย์

หากคุณแม่มีอาการกล้ามเนื้ออ่อนแรงร่วมกับอาการเหล่านี้ ควรรีบพบแพทย์ทันที:

  • กล้ามเนื้ออ่อนแรงจนทำให้ลุกนั่งหรือเดินไม่ได้
  • อาการตะคริวรุนแรงและเกิดขึ้นบ่อยครั้ง
  • ปวดกล้ามเนื้อร่วมกับบวม แดง หรือมีไข้
  • รู้สึกชาและมีอาการเจ็บร้าวลงขาหรือแขน

สรุป

อาการกล้ามเนื้ออ่อนแรงในช่วงตั้งครรภ์เป็นปัญหาที่พบได้บ่อย แต่สามารถจัดการได้ด้วยการดูแลตนเองอย่างเหมาะสม เช่น การออกกำลังกายเบาๆ การยืดกล้ามเนื้อ การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ และการพักผ่อนให้เพียงพอ หากอาการรุนแรงขึ้น ควรรีบพบแพทย์เพื่อรับคำแนะนำและการรักษาที่เหมาะสม การดูแลกล้ามเนื้อให้แข็งแรงจะช่วยให้คุณแม่สามารถดำเนินชีวิตประจำวันได้อย่างสะดวกสบายและมีความสุขตลอดการตั้งครรภ์

 

You may also like

Share via