การดูแลลูกเมื่อเข้าสู่ช่วงการแยกจาก (Separation Anxiety) ในวัย 6-12 เดือน

การดูแลลูกเมื่อเข้าสู่ช่วงการแยกจาก (Separation Anxiety) ในวัย 6-12 เดือน

by https://babyandmomthai.com/

การดูแลลูกเมื่อเข้าสู่ช่วงการแยกจาก (Separation Anxiety) ในวัย 6-12 เดือน

บทนำ

ในช่วงวัย 6-12 เดือน ลูกน้อยเริ่มมีความผูกพันใกล้ชิดกับพ่อแม่มากขึ้น จนเกิดความวิตกกังวลเมื่อต้องแยกจากหรือไม่เห็นพ่อแม่อยู่ใกล้ ๆ ซึ่งเป็นพัฒนาการทางอารมณ์ที่ปกติและสำคัญ ช่วงนี้เรียกว่า Separation Anxiety การดูแลและตอบสนองอย่างเหมาะสมช่วยให้ลูกปรับตัวได้ดีขึ้นและสร้างความมั่นคงทางจิตใจในระยะยาว


เนื้อหา

1. สาเหตุของการแยกจากในวัยนี้
  • พัฒนาการด้านความทรงจำ: ลูกเริ่มจดจำใบหน้าและสิ่งที่คุ้นเคยได้ เมื่อพ่อแม่ไม่อยู่ ลูกจะรู้สึกกังวลเพราะไม่แน่ใจว่าพ่อแม่จะกลับมาหรือไม่
  • ความผูกพันที่แน่นแฟ้น: ลูกพัฒนาความไว้วางใจกับพ่อแม่ ทำให้เกิดความรู้สึกปลอดภัยเมื่อต้องอยู่ใกล้
  • การรับรู้สิ่งแวดล้อม: ลูกเริ่มสำรวจโลกมากขึ้น แต่ยังต้องการพ่อแม่เป็นที่ยึดเหนี่ยว

2. ลักษณะของ Separation Anxiety
  • ร้องไห้หรือกังวลเมื่อต้องแยกจากพ่อแม่
  • ไม่ยอมให้คนแปลกหน้าอุ้มหรือเข้าใกล้
  • เกาะติดพ่อแม่ตลอดเวลา แม้จะอยู่ในสถานที่คุ้นเคย
  • แสดงความไม่สบายใจ เช่น งอแงหรือซึม เมื่อพ่อแม่ออกจากสายตา

3. วิธีช่วยลูกจัดการกับ Separation Anxiety
  1. สร้างความมั่นคง:
    • ใช้กิจวัตรประจำวันที่สม่ำเสมอ เช่น เวลานอน เวลากิน เพื่อให้ลูกคาดเดาได้ว่าสิ่งใดจะเกิดขึ้น
    • บอกลูกล่วงหน้าว่าพ่อแม่จะไปทำอะไร เช่น “แม่ไปทำงาน เดี๋ยวกลับมานะ”
  2. ฝึกการแยกจากทีละน้อย:
    • เริ่มจากการออกจากห้องในช่วงเวลาสั้น ๆ และค่อย ๆ เพิ่มระยะเวลา
    • เมื่อกลับมาหาลูก ให้ยิ้มและพูดด้วยน้ำเสียงสดใส เช่น “แม่กลับมาแล้วจ้ะ!”
  3. ทำให้การล่ำลาเป็นเรื่องปกติ:
    • ไม่แอบออกจากบ้านโดยไม่บอกลา เพราะอาจทำให้ลูกกังวลมากขึ้น
    • พูดล่ำลาสั้น ๆ และมั่นใจ เช่น “หนูอยู่กับพี่เลี้ยงก่อนนะ เดี๋ยวแม่มารับ”
  4. สนับสนุนความเป็นอิสระ:
    • ให้ลูกได้เล่นคนเดียวในพื้นที่ปลอดภัย เพื่อฝึกการอยู่ห่างจากพ่อแม่
    • ส่งเสริมให้ลูกเล่นกับคนอื่นในครอบครัวหรือเพื่อนบ้าน
  5. ใช้สิ่งของปลอบใจ:
    • ให้ลูกมีของเล่นหรือผ้าห่มที่เขารู้สึกปลอดภัยเมื่อพ่อแม่ไม่อยู่

4. กิจกรรมที่ช่วยลดความกังวลเมื่อต้องแยกจาก
  • เล่นเกมจ๊ะเอ๋: ช่วยให้ลูกเรียนรู้ว่าพ่อแม่หายไปเพียงชั่วคราวและจะกลับมา
  • การซ่อนของเล่น: ซ่อนของเล่นใต้ผ้าหรือในกล่องแล้วให้ลูกค้นหา เพื่อเสริมความเข้าใจว่าของหายไปไม่ได้หมายความว่าจะไม่กลับมา
  • การเล่นบทบาทสมมติ: ใช้ตุ๊กตาหรือของเล่นในการเล่าเรื่องเกี่ยวกับการแยกจากและการกลับมา

5. สิ่งที่พ่อแม่ควรทำ
  • แสดงความมั่นใจ: ลูกสามารถสัมผัสได้ถึงอารมณ์ของพ่อแม่ หากพ่อแม่ดูมั่นใจ ลูกจะรู้สึกปลอดภัยมากขึ้น
  • อดทนและให้เวลา: การปรับตัวของลูกต้องใช้เวลา ควรให้การสนับสนุนอย่างเหมาะสม
  • พูดคุยกับลูก: แม้ลูกอาจยังไม่เข้าใจทั้งหมด แต่การพูดคุยช่วยสร้างความไว้วางใจ

6. สิ่งที่ควรหลีกเลี่ยง
  • อย่าเพิกเฉยต่อความกังวลของลูก: การปล่อยให้ลูกร้องไห้โดยไม่สนใจอาจทำให้ความกังวลเพิ่มขึ้น
  • อย่าเร่งให้ลูกปรับตัวเร็วเกินไป: ควรให้ลูกเรียนรู้การแยกจากในจังหวะที่เหมาะสมกับเขา
  • หลีกเลี่ยงการแอบหายไป: เพราะอาจทำให้ลูกเสียความไว้วางใจ

7. เมื่อควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ
  • หากลูกมีอาการ Separation Anxiety อย่างรุนแรงจนส่งผลต่อการกิน การนอน หรือพัฒนาการอื่น ๆ
  • หากลูกแสดงความกังวลต่อการแยกจากแม้ในสถานที่ที่คุ้นเคยหรือกับคนใกล้ชิด
  • หากลูกมีพฤติกรรมที่ดูผิดปกติ เช่น ร้องไห้อย่างหนักหรือแสดงความก้าวร้าวเมื่อต้องแยกจาก

สรุป

Separation Anxiety เป็นพัฒนาการทางอารมณ์ที่ปกติในวัย 6-12 เดือน การสนับสนุนลูกด้วยความเข้าใจ การใช้กิจวัตรประจำวันที่สม่ำเสมอ และการฝึกการแยกจากอย่างค่อยเป็นค่อยไปช่วยให้ลูกปรับตัวได้ง่ายขึ้น หากพบว่าลูกมีความกังวลรุนแรงหรือไม่สามารถปรับตัวได้ ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเพื่อคำแนะนำเพิ่มเติม

 

You may also like

Share via