การจัดการกับอารมณ์โกรธหรืองอแงของลูกวัย 6-12 เดือน

การจัดการกับอารมณ์โกรธหรืองอแงของลูกวัย 6-12 เดือน

by https://babyandmomthai.com/

การจัดการกับอารมณ์โกรธหรืองอแงของลูกวัย 6-12 เดือน

บทนำ

ในวัย 6-12 เดือน ทารกเริ่มแสดงออกถึงอารมณ์ที่หลากหลายมากขึ้น รวมถึงความโกรธหรือการงอแง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของพัฒนาการทางอารมณ์ ลูกน้อยอาจงอแงเพื่อแสดงความไม่พอใจเมื่อไม่ได้รับสิ่งที่ต้องการหรือเมื่อเผชิญกับสถานการณ์ที่ทำให้รู้สึกไม่สบายใจ การจัดการอารมณ์เหล่านี้ด้วยความเข้าใจและเทคนิคที่เหมาะสมช่วยให้ลูกเรียนรู้ที่จะควบคุมอารมณ์และพัฒนาความสัมพันธ์ที่ดีกับพ่อแม่


เนื้อหา

1. ทำไมลูกวัย 6-12 เดือนถึงแสดงอารมณ์โกรธหรืองอแง
  • การสื่อสารความต้องการ: ลูกยังไม่สามารถพูดเพื่อแสดงความต้องการได้ชัดเจน การงอแงจึงเป็นวิธีหนึ่งในการบอกพ่อแม่
  • ความหงุดหงิดจากพัฒนาการ: ลูกอาจรู้สึกหงุดหงิดเมื่อต้องการทำสิ่งใหม่ ๆ แต่ยังทำไม่ได้ เช่น การพยายามคลานหรือหยิบของ
  • ความไม่สบายตัว: ความหิว ง่วง หรือไม่สบายตัว เช่น ฟันขึ้น หรืออากาศร้อนเกินไป อาจทำให้ลูกงอแง
  • การตอบสนองต่อสถานการณ์: เช่น การถูกปฏิเสธสิ่งที่ต้องการ หรือการเปลี่ยนแปลงในกิจวัตรประจำวัน

2. วิธีจัดการกับอารมณ์โกรธหรืองอแงของลูก
  1. รักษาความสงบ:
    • พ่อแม่ควรใจเย็นและไม่แสดงอารมณ์โกรธกลับ เพราะอาจทำให้ลูกเครียดหรือกลัว
    • ใช้น้ำเสียงอ่อนโยนเพื่อปลอบโยนลูก
  2. สังเกตและระบุสาเหตุ:
    • สังเกตสัญญาณว่าลูกงอแงเพราะอะไร เช่น หิว ง่วง หรือไม่สบายตัว
    • หากลูกหงุดหงิดจากการพยายามทำสิ่งใหม่ ให้สนับสนุนหรือช่วยเหลือเล็กน้อย
  3. เบี่ยงเบนความสนใจ:
    • หากลูกงอแงเพราะไม่ได้ในสิ่งที่ต้องการ ลองเบี่ยงเบนความสนใจไปยังสิ่งอื่นที่น่าสนใจ เช่น ของเล่นหรือเพลงโปรด
  4. สร้างบรรยากาศที่สงบ:
    • หากลูกโกรธหรือร้องไห้ ลองพาลูกไปยังสถานที่สงบ เช่น ห้องที่เงียบหรือพื้นที่ที่ลูกชอบ
    • กอดหรือปลอบโยนด้วยการสัมผัสเพื่อช่วยให้ลูกสงบ
  5. แสดงความเข้าใจ:
    • พูดกับลูกว่า “แม่รู้ว่าลูกอยากได้สิ่งนี้ แต่ตอนนี้เรายังทำไม่ได้” เพื่อแสดงความเข้าใจในความรู้สึกของเขา
  6. ฝึกการรอคอย:
    • หากลูกงอแงเพราะต้องการสิ่งใดทันที สอนให้รอเล็กน้อยก่อนจะได้รับสิ่งนั้น เช่น “อีกนิดเดียว เราจะได้กินแล้วนะ”

3. เทคนิคเสริมเพื่อจัดการอารมณ์ของลูก
  • ใช้การสัมผัส: การลูบหลังหรือจับมือช่วยให้ลูกสงบ
  • สร้างกิจวัตรที่สม่ำเสมอ: กิจวัตรที่ชัดเจนช่วยลดความสับสนและลดโอกาสการงอแง
  • ให้ลูกได้แสดงออก: หากลูกอยากลองทำสิ่งใหม่ ๆ เช่น การหยิบจับของเล่น ให้โอกาสเขาได้ลอง แม้จะไม่สมบูรณ์แบบ

4. สิ่งที่ควรหลีกเลี่ยง
  • อย่าเพิกเฉยต่อความรู้สึกของลูก: แม้การงอแงจะดูเล็กน้อย แต่การแสดงความใส่ใจช่วยสร้างความไว้วางใจ
  • อย่าใช้การดุหรือเสียงดัง: การดุอาจทำให้ลูกกลัวและเพิ่มความเครียด
  • หลีกเลี่ยงการตามใจทุกครั้ง: การยอมให้ลูกได้สิ่งที่ต้องการทุกครั้งอาจทำให้ลูกไม่เรียนรู้การจัดการอารมณ์

5. ประโยชน์ของการจัดการอารมณ์ที่เหมาะสม
  • เสริมสร้างความไว้วางใจ: ลูกจะรู้สึกว่าพ่อแม่เข้าใจและพร้อมช่วยเหลือ
  • พัฒนาทักษะการจัดการอารมณ์: ลูกจะเรียนรู้วิธีสงบตัวเองเมื่อโตขึ้น
  • สร้างความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้น: การตอบสนองที่เหมาะสมช่วยเสริมสร้างสายสัมพันธ์ระหว่างพ่อแม่และลูก

6. เมื่อควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ
  • หากลูกมีพฤติกรรมงอแงหรือโกรธรุนแรงและบ่อยครั้งจนส่งผลต่อกิจวัตรประจำวัน
  • หากลูกไม่สามารถสงบตัวเองได้แม้พ่อแม่จะพยายามปลอบโยน
  • หากพ่อแม่รู้สึกเครียดหรือไม่สามารถจัดการกับสถานการณ์ได้

สรุป

การงอแงหรือแสดงอารมณ์โกรธในวัย 6-12 เดือนเป็นเรื่องธรรมชาติที่แสดงถึงการเรียนรู้ที่จะสื่อสารและจัดการความรู้สึก การตอบสนองอย่างใจเย็นและการสร้างบรรยากาศที่สงบช่วยให้ลูกเรียนรู้วิธีจัดการกับอารมณ์ของตัวเองและสร้างความมั่นใจในความสัมพันธ์กับพ่อแม่ หากมีปัญหาที่รุนแรง ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเพื่อรับคำแนะนำเพิ่มเติม

 

You may also like

Share via