การส่งเสริมพัฒนาการด้านอารมณ์และสังคมของเด็กวัย 1-3 ปี

การส่งเสริมพัฒนาการด้านอารมณ์และสังคมของเด็กวัย 1-3 ปี

by babyandmomthai.com

การส่งเสริมพัฒนาการด้านอารมณ์และสังคมของเด็กวัย 1-3 ปี

บทนำ

เด็กวัย 1-3 ปีเป็นช่วงเวลาที่เริ่มสำรวจความรู้สึกของตัวเองและคนรอบข้าง การเรียนรู้การแสดงออกทางอารมณ์และการสร้างความสัมพันธ์กับผู้อื่นในวัยนี้มีผลต่อการพัฒนาทางสังคมในระยะยาว พฤติกรรมต่าง ๆ เช่น การแสดงความดีใจ ความหงุดหงิด หรือการแบ่งปันของเล่นล้วนสะท้อนถึงพัฒนาการทางอารมณ์และสังคมที่กำลังก่อร่างขึ้น ในบทความนี้ เราจะสำรวจลักษณะพัฒนาการของเด็กวัยนี้ พร้อมวิธีส่งเสริมและรับมือกับความท้าทายที่อาจเกิดขึ้น


เนื้อหา

1. พัฒนาการด้านอารมณ์และสังคมในวัย 1-3 ปี

ช่วงอายุ 12-18 เดือน

  • เด็กเริ่มแสดงความผูกพันกับผู้ดูแลหลักอย่างชัดเจน
  • มีความสามารถในการแสดงอารมณ์พื้นฐาน เช่น ดีใจ เสียใจ หรือโกรธ
  • เริ่มแยกตัวจากผู้ดูแลได้ชั่วคราว เช่น การเล่นเองในระยะใกล้
  • เริ่มสนใจเด็กคนอื่น แม้จะยังไม่เล่นด้วยกันอย่างเต็มที่

ช่วงอายุ 18-24 เดือน

  • แสดงความเป็นตัวของตัวเอง เช่น ปฏิเสธด้วยคำว่า “ไม่”
  • รู้จักการเลียนแบบพฤติกรรมผู้ใหญ่หรือเพื่อนในวัยเดียวกัน
  • เริ่มมีความเห็นใจ เช่น การปลอบเด็กคนอื่นที่ร้องไห้
  • แสดงความรู้สึกเจ็บปวดเมื่อไม่ได้รับในสิ่งที่ต้องการ

ช่วงอายุ 24-36 เดือน

  • เข้าใจอารมณ์ที่ซับซ้อนขึ้น เช่น ความเขินอายหรือความอิจฉา
  • เริ่มสร้างความสัมพันธ์ทางสังคม เช่น การเล่นบทบาทสมมติกับเด็กคนอื่น
  • เรียนรู้การแบ่งปันและการรอคอย แม้ว่าจะยังมีความยากลำบาก
  • มีความสามารถในการควบคุมอารมณ์มากขึ้น แม้ว่าจะยังมีช่วงเวลาที่แสดงอารมณ์รุนแรง

2. วิธีส่งเสริมพัฒนาการด้านอารมณ์และสังคม

การสร้างความสัมพันธ์ที่มั่นคง

  • ให้ความใกล้ชิดและสนใจเด็ก เช่น การกอด การพูดคุย
  • สร้างความมั่นคงด้วยกิจวัตรประจำวันที่ชัดเจน เช่น การนอน การกิน
  • ใช้เวลาเล่นกับเด็ก เพื่อให้เขารู้สึกถึงความสำคัญ

การสอนผ่านการเล่น

  • เล่นสมมติ: เช่น เล่นเป็นพ่อแม่ลูก เพื่อให้เด็กเข้าใจบทบาททางสังคม
  • เกมแบ่งปัน: ใช้ของเล่นที่ต้องแบ่งปันหรือสลับกันเล่น
  • เล่นกับเด็กคนอื่น: ช่วยส่งเสริมการปรับตัวและการแก้ปัญหาในกลุ่ม

การสอนการจัดการอารมณ์

  • ช่วยเด็กเรียกชื่ออารมณ์ เช่น “ลูกกำลังโกรธใช่ไหม?”
  • ใช้วิธีเบี่ยงเบนความสนใจเมื่อเด็กหงุดหงิด เช่น ชวนทำกิจกรรมที่เขาชอบ
  • สอนวิธีสงบสติอารมณ์ เช่น การหายใจลึก ๆ หรือการนับเลข

การเป็นแบบอย่างที่ดี

  • แสดงพฤติกรรมที่เหมาะสม เช่น การใช้คำว่า “ขอโทษ” และ “ขอบคุณ”
  • สอนให้เด็กเห็นการแก้ปัญหาอย่างสงบเมื่อมีความขัดแย้ง

3. ปัญหาที่พบบ่อยและการจัดการ

เด็กติดผู้ปกครองมากเกินไป

  • หากเด็กไม่ยอมแยกจากผู้ปกครอง อาจต้องเริ่มด้วยการให้เขาเล่นในพื้นที่ใกล้ ๆ ก่อน
  • สร้างความมั่นใจด้วยการบอกว่าจะกลับมาหาและทำตามคำพูด

การแสดงอารมณ์รุนแรง (Temper Tantrums)

  • อย่าตอบสนองด้วยการตะโกนหรือดุ ควรสงบสติอารมณ์และอธิบายเมื่อเด็กสงบลง
  • สร้างพื้นที่ปลอดภัยให้เด็กได้สงบลง เช่น มุมสงบ

ไม่แบ่งปันของเล่น

  • สอนแนวคิดการรอคอยและการแบ่งปันผ่านการเล่น เช่น “ถึงเวลาของพี่คนนี้เล่นแล้ว เดี๋ยวลูกจะได้เล่นต่อ”
  • ชมเชยเมื่อเด็กแบ่งปันหรือรอคอยได้สำเร็จ

เด็กไม่สนใจคนอื่น

  • สนับสนุนให้เด็กเล่นกับเพื่อนในวัยเดียวกัน โดยเริ่มจากกลุ่มเล็ก ๆ
  • ชวนพูดคุยเกี่ยวกับคนอื่น เช่น “เพื่อนคนนี้เล่นอะไรอยู่?”

สรุป

พัฒนาการด้านอารมณ์และสังคมของเด็กวัย 1-3 ปีเป็นรากฐานสำคัญของการเติบโตทางจิตใจในระยะยาว การสนับสนุนด้วยความรักและการสอนผ่านกิจวัตรประจำวันจะช่วยให้เด็กเรียนรู้การจัดการอารมณ์และสร้างความสัมพันธ์ที่ดี หากพบปัญหาที่ซับซ้อน ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเพื่อรับคำแนะนำที่เหมาะสม

 

You may also like

Share via