35
สัญญาณเตือนปัญหาด้านการพูดในเด็ก
บทนำ
การพัฒนาทักษะการพูดเป็นหนึ่งในจุดสำคัญของพัฒนาการในวัย 1-3 ปี อย่างไรก็ตาม เด็กบางคนอาจมีพัฒนาการด้านการพูดล่าช้าหรือแสดงสัญญาณที่บ่งบอกถึงปัญหาในการพูดและการสื่อสาร การสังเกตและเข้าใจสัญญาณเหล่านี้เป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้สามารถช่วยเหลือเด็กได้อย่างเหมาะสมและทันเวลา ในบทความนี้จะกล่าวถึงสัญญาณเตือนที่ควรใส่ใจ รวมถึงแนวทางการรับมือและการขอคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญ
เนื้อหา
พัฒนาการการพูดที่เหมาะสมในแต่ละช่วงวัย
- วัย 12 เดือน:
- เริ่มพูดคำง่าย ๆ เช่น “แม่” หรือ “พ่อ”
- ส่งเสียงพยายามเลียนแบบคำพูดที่ได้ยิน
- วัย 18 เดือน:
- มีคำศัพท์ในคลังประมาณ 10-20 คำ
- พยายามพูดคำใหม่และโต้ตอบกับผู้ใหญ่
- วัย 24 เดือน:
- พูดคำศัพท์ได้ประมาณ 50 คำขึ้นไป
- เริ่มผสมคำสองคำ เช่น “เอานม” หรือ “ไปเล่น”
- วัย 36 เดือน:
- ใช้ประโยคสั้น ๆ และโต้ตอบในบทสนทนาได้
- สามารถเล่าเรื่องง่าย ๆ ได้บ้าง
สัญญาณเตือนปัญหาด้านการพูดในเด็ก
- การพูดล่าช้ากว่าช่วงวัย
- ไม่พูดคำใดเลยภายในอายุ 12-18 เดือน
- มีคลังคำศัพท์น้อยกว่า 10 คำในวัย 18-24 เดือน
- ไม่พยายามเลียนแบบเสียง
- เด็กไม่ส่งเสียงเลียนแบบคำพูดที่ได้ยินจากผู้ใหญ่
- การไม่ตอบสนองต่อเสียง
- เด็กไม่หันมองหรือแสดงปฏิกิริยาต่อเสียงเรียกชื่อ
- ความยากลำบากในการผสมคำหรือสร้างประโยค
- เด็กอายุ 2-3 ปี ไม่สามารถผสมคำหรือสร้างประโยคสั้น ๆ ได้
- เสียงพูดไม่ชัดเจนหรือผิดปกติ
- มีการออกเสียงที่ผิดหรือเสียงไม่ชัดเจนจนคนรอบข้างไม่เข้าใจ
- ไม่มีความพยายามในการสื่อสาร
- เด็กไม่ใช้คำพูดหรือท่าทางในการสื่อสารความต้องการ
- ปัญหาด้านพฤติกรรมที่เกี่ยวข้อง
- เด็กอาจแสดงพฤติกรรมงอแงหรือโกรธเมื่อไม่สามารถสื่อสารได้
สาเหตุของปัญหาด้านการพูด
- พัฒนาการล่าช้า:
- เด็กอาจมีพัฒนาการโดยรวมที่ล่าช้า ซึ่งรวมถึงทักษะการพูด
- ปัญหาด้านการได้ยิน:
- เด็กที่มีปัญหาการได้ยินอาจไม่สามารถเรียนรู้คำพูดจากสิ่งที่ได้ยิน
- ปัญหาทางร่างกาย:
- ความผิดปกติในช่องปาก เช่น ลิ้นติด หรือเพดานปากแหว่ง
- ความผิดปกติทางสมองหรือระบบประสาท:
- เช่น ภาวะออทิสติก หรือสมองพิการ
- การขาดการกระตุ้นทางภาษา:
- เด็กที่ไม่ได้รับการพูดคุยหรือกระตุ้นด้านภาษาอาจพัฒนาการพูดช้ากว่าปกติ
วิธีช่วยเหลือเด็กที่มีปัญหาด้านการพูด
- กระตุ้นการพูดในชีวิตประจำวัน:
- พูดคุยกับลูกบ่อย ๆ โดยใช้ประโยคที่ง่ายและคำศัพท์ที่เหมาะสม
- ใช้คำถามกระตุ้น เช่น “ลูกอยากกินอะไรคะ?”
- อ่านหนังสือและร้องเพลง:
- อ่านหนังสือภาพให้ลูกฟังเพื่อเพิ่มคลังคำศัพท์
- ใช้เพลงที่มีคำศัพท์ง่าย ๆ เพื่อช่วยให้เด็กจดจำคำได้ดีขึ้น
- สนับสนุนการเลียนแบบเสียง:
- ทำเสียงสัตว์หรือเสียงง่าย ๆ เช่น “มอ” “โฮ่ง” แล้วให้เด็กเลียนแบบ
- การเล่นเพื่อการเรียนรู้:
- ใช้ของเล่น เช่น การ์ดคำศัพท์ หรือบล็อกตัวอักษร
- พาไปพบผู้เชี่ยวชาญ:
- หากสังเกตว่าพัฒนาการการพูดของลูกล่าช้า ควรปรึกษากุมารแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาการเด็ก
- การตรวจการได้ยินหรือการประเมินพัฒนาการจะช่วยระบุสาเหตุได้ชัดเจน
การรับมือสำหรับพ่อแม่
- อย่ากดดันลูก:
- การกดดันหรือเร่งให้ลูกพูดอาจทำให้เด็กเกิดความเครียดและลดความมั่นใจ
- สร้างสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม:
- ลดการใช้สื่อดิจิทัลและเพิ่มการปฏิสัมพันธ์กับคนรอบตัว
- อดทนและให้กำลังใจ:
- เด็กบางคนอาจต้องใช้เวลามากขึ้นในการพัฒนาทักษะการพูด
สรุป
สัญญาณเตือนปัญหาด้านการพูดในเด็กเป็นเรื่องที่พ่อแม่ควรใส่ใจ หากพบว่าพัฒนาการของลูกล่าช้าหรือมีลักษณะผิดปกติ ควรให้ความสนใจและรีบปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ การกระตุ้นและสนับสนุนอย่างเหมาะสมจากครอบครัว รวมถึงการได้รับคำแนะนำจากแพทย์ จะช่วยให้เด็กมีโอกาสพัฒนาทักษะการพูดได้อย่างเต็มที่