10 สัญญาณแรกเริ่มที่บ่งบอกว่าลูกอาจมีพัฒนาการทางภาษาและการสื่อสารล่าช้า

10 สัญญาณแรกเริ่มที่บ่งบอกว่าลูกอาจมีพัฒนาการทางภาษาและการสื่อสารล่าช้า

by https://babyandmomthai.com/

 10 สัญญาณแรกเริ่มที่บ่งบอกว่าลูกอาจมีพัฒนาการทางภาษาและการสื่อสารล่าช้า


บทนำ

พัฒนาการทางภาษาและการสื่อสารเป็นหนึ่งในทักษะสำคัญที่ส่งผลต่อการเรียนรู้ การเข้าสังคม และความมั่นใจในตนเองของเด็ก แต่พ่อแม่หลายคนอาจไม่ทราบว่าความล่าช้าในพัฒนาการนี้มักมีสัญญาณเตือนที่สามารถสังเกตได้ตั้งแต่ระยะแรก การรับรู้และแก้ไขอย่างเหมาะสมตั้งแต่เนิ่นๆ จะช่วยลดความเสี่ยงของปัญหาทางการสื่อสารที่อาจกระทบต่อชีวิตในระยะยาว บทความนี้จะนำเสนอ 10 สัญญาณสำคัญที่พ่อแม่ควรจับตาและเข้าใจอย่างละเอียด


เนื้อหา

1. ไม่สบตาหรือสนใจเสียงพูดของผู้ใหญ่
ตั้งแต่ช่วงวัยทารก เด็กส่วนใหญ่จะแสดงความสนใจต่อเสียงพูดหรือใบหน้าของผู้ใหญ่ หากลูกไม่ตอบสนองต่อเสียงหรือสายตาในช่วง 6 เดือนแรก อาจเป็นสัญญาณว่าการพัฒนาการสื่อสารเริ่มมีปัญหา

2. ไม่ตอบสนองต่อชื่อเรียก
เด็กปกติเริ่มตอบสนองต่อชื่อของตนเองตั้งแต่อายุ 6-9 เดือน หากลูกไม่หันมาหรือไม่มีปฏิกิริยาต่อชื่อของตัวเอง อาจเป็นสัญญาณของความล่าช้าหรือปัญหาด้านการรับรู้

3. ไม่แสดงการส่งเสียงโต้ตอบ
ในวัยประมาณ 4-6 เดือน เด็กควรเริ่มส่งเสียง “อ้อแอ้” หรือพยายามเลียนแบบเสียงรอบตัว หากลูกยังเงียบสนิทหรือไม่ตอบสนองด้วยเสียงโต้ตอบ อาจต้องสังเกตพฤติกรรมอย่างใกล้ชิด

4. การใช้ท่าทางแทนการสื่อสารที่ไม่พัฒนา
เด็กอายุ 9-12 เดือนควรเริ่มใช้ท่าทาง เช่น ชี้นิ้วหรือโบกมือ เพื่อสื่อสาร หากลูกไม่ใช้ท่าทางเหล่านี้หรือใช้ในรูปแบบที่จำกัด อาจบ่งบอกถึงความล่าช้า

5. ไม่มีการพูดคำเดี่ยวๆ เมื่ออายุ 12-15 เดือน
เด็กวัยนี้ควรเริ่มพูดคำง่ายๆ เช่น “พ่อ” หรือ “แม่” หากลูกยังไม่พูดคำเดี่ยวใดๆ เลย อาจเป็นสัญญาณแรกของปัญหาพัฒนาการภาษา

6. ไม่สนใจการเล่นเลียนแบบ
การเล่นเลียนแบบ เช่น การเล่นบทบาทสมมติ หรือการเลียนแบบเสียงสัตว์ เป็นพฤติกรรมที่เด็กวัย 12-18 เดือนควรเริ่มแสดงออก หากลูกไม่สนใจหรือไม่สามารถทำได้ อาจต้องสังเกตเพิ่มเติม

7. ไม่สามารถเชื่อมคำเพื่อสร้างประโยค
เด็กอายุ 2 ปี ควรเริ่มพูดประโยคสั้นๆ เช่น “กินขนม” หรือ “ไปเล่น” หากลูกยังพูดเป็นคำเดี่ยวๆ หรือไม่สามารถเชื่อมคำได้ อาจบ่งบอกถึงปัญหาทางภาษา

8. ไม่เข้าใจคำสั่งง่ายๆ
ในวัย 18-24 เดือน เด็กควรเริ่มเข้าใจคำสั่งง่ายๆ เช่น “หยิบลูกบอล” หรือ “มานั่งตรงนี้” หากลูกไม่ตอบสนองหรือทำตามคำสั่ง อาจเป็นสัญญาณของการล่าช้า

9. คลังคำศัพท์น้อยเกินไปเมื่อเทียบกับวัย
เด็กอายุ 2-3 ปี ควรมีคลังคำศัพท์อย่างน้อย 200 คำ และเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว หากคลังคำศัพท์ของลูกยังจำกัดมากในช่วงวัยนี้ ควรพิจารณาเข้าพบผู้เชี่ยวชาญ

10. เสียงพูดไม่ชัดเจนจนผู้ใหญ่เข้าใจยาก
เด็กวัย 3 ปี ควรพูดได้ชัดเจนพอที่พ่อแม่และคนใกล้ชิดสามารถเข้าใจได้ หากเสียงพูดของลูกยังไม่ชัดเจนหรือผิดปกติ อาจต้องตรวจสอบเรื่องการออกเสียงหรือกล้ามเนื้อในช่องปาก


วิธีการสังเกตและดูแล

  • การบันทึกพฤติกรรม
    พ่อแม่ควรจดบันทึกพัฒนาการของลูกในแต่ละช่วงวัย รวมถึงคำที่ลูกสามารถพูดหรือการสื่อสารอื่นๆ เพื่อเปรียบเทียบกับมาตรฐานพัฒนาการ
  • ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ
    หากพบสัญญาณเหล่านี้ ควรปรึกษากุมารแพทย์ นักบำบัดด้านภาษา หรือผู้เชี่ยวชาญด้านพัฒนาการเด็กโดยเร็ว
  • สร้างสภาพแวดล้อมที่กระตุ้นการเรียนรู้
    พูดคุยกับลูกบ่อยๆ อ่านหนังสือให้ฟัง และชวนลูกมีส่วนร่วมในกิจกรรมที่กระตุ้นการสื่อสาร

สรุป

สัญญาณแรกเริ่มของพัฒนาการทางภาษาล่าช้าสามารถสังเกตได้จากพฤติกรรมที่ลูกแสดงออกในช่วงวัยต่างๆ การรู้เท่าทันและตอบสนองต่อปัญหาอย่างเหมาะสมตั้งแต่แรกจะช่วยเพิ่มโอกาสในการแก้ไขและพัฒนาทักษะทางการสื่อสารให้ดีขึ้น การทำงานร่วมกับผู้เชี่ยวชาญและการสนับสนุนจากพ่อแม่คือกุญแจสำคัญในการสร้างรากฐานที่แข็งแรงให้กับลูกในอนาคต

 

You may also like

Share via