“ไม่แบ่งของเล่น”: ปัญหาธรรมดาหรือปัญหาพัฒนาการทางสังคม?
บทนำ
หนึ่งในพฤติกรรมที่พบได้บ่อยในเด็กเล็กคือการไม่แบ่งของเล่นให้เพื่อน บางครั้งเด็กอาจแย่งของเล่น หรือแสดงความหวงสิ่งของที่ตัวเองกำลังเล่นอยู่ แม้ว่าพฤติกรรมนี้จะดูเหมือนเป็นเรื่องธรรมดาในช่วงวัยเด็ก แต่บางกรณีอาจเป็นสัญญาณของปัญหาพัฒนาการทางสังคมที่ต้องการความใส่ใจจากผู้ปกครอง
บทความนี้จะช่วยผู้ปกครองแยกแยะว่าเมื่อไรพฤติกรรม “ไม่แบ่งของเล่น” เป็นเพียงส่วนหนึ่งของพัฒนาการที่เหมาะสม หรือเป็นสัญญาณของปัญหา พร้อมคำแนะนำในการสอนเด็กให้พัฒนาทักษะการแบ่งปันและการอยู่ร่วมกับผู้อื่น
เนื้อหา
1. ทำไมเด็กเล็กถึงไม่แบ่งของเล่น?
การไม่แบ่งของเล่นในเด็กเล็กเป็นพฤติกรรมปกติในช่วงแรกของพัฒนาการ เนื่องจากเด็กในวัยนี้ยังอยู่ในช่วงที่มีพฤติกรรม “ยึดตัวเองเป็นศูนย์กลาง” (Egocentric Behavior) เด็กจะมองว่าของเล่นหรือสิ่งของเป็นของตัวเอง และยังไม่เข้าใจแนวคิดของการแบ่งปัน
ตัวอย่างพฤติกรรมปกติ:
- แย่งของเล่นจากเพื่อน
- ปฏิเสธที่จะให้เพื่อนเล่นของที่ตัวเองถืออยู่
- ร้องไห้เมื่อเพื่อนหยิบของเล่นที่ตนชอบไป
พฤติกรรมนี้มักลดลงเมื่อเด็กโตขึ้นและเรียนรู้ทักษะการอยู่ร่วมกับผู้อื่น
2. เมื่อไรการไม่แบ่งของเล่นอาจบ่งบอกถึงปัญหา?
หากพฤติกรรมการไม่แบ่งของเล่นยังคงอยู่หรือมีลักษณะรุนแรงเมื่อเด็กเข้าสู่วัยอนุบาลหรือประถม อาจบ่งบอกถึงปัญหาพัฒนาการทางสังคม เช่น
- การขาดความเห็นอกเห็นใจ (Empathy): เด็กไม่เข้าใจความรู้สึกของผู้อื่น เช่น เพื่อนไม่มีของเล่นเล่น
- การไม่สามารถเข้าสังคมได้: เด็กมีปัญหาในการเล่นร่วมกับเพื่อน เช่น การทะเลาะหรือแยกตัวออกจากกลุ่ม
- ปัญหาการควบคุมอารมณ์: เด็กโกรธหรือร้องไห้ทุกครั้งที่ถูกขอแบ่งของเล่น
- พัฒนาการล่าช้า: เด็กที่มีพฤติกรรมยึดตัวเองเป็นศูนย์กลางอย่างต่อเนื่องในวัยที่ควรเรียนรู้การแบ่งปัน
3. ปัจจัยที่ทำให้เด็กไม่แบ่งของเล่น
- วัยและพัฒนาการ: เด็กเล็กยังไม่เข้าใจแนวคิดของการแบ่งปันหรือการผลัดกันเล่น
- สิ่งแวดล้อม: หากเด็กไม่ได้รับโอกาสฝึกการเล่นร่วมกับเพื่อน อาจทำให้เขาไม่คุ้นเคยกับการแบ่งปัน
- บุคลิกภาพ: เด็กบางคนมีบุคลิกที่ชอบควบคุม หรือรู้สึกไม่มั่นคงเมื่อของเล่นถูกยึดไป
- การเลียนแบบพฤติกรรม: เด็กอาจเลียนแบบพฤติกรรมการไม่แบ่งปันจากผู้ใหญ่หรือเพื่อน
4. วิธีสังเกตว่าพฤติกรรม “ไม่แบ่งของเล่น” เป็นปัญหาหรือไม่
- ความถี่: เด็กปฏิเสธการแบ่งปันเสมอในทุกสถานการณ์
- ปฏิกิริยาที่รุนแรง: เด็กแสดงอารมณ์รุนแรง เช่น กรีดร้องหรือขว้างของ เมื่อถูกขอแบ่งของเล่น
- ไม่มีการพัฒนา: เด็กไม่เรียนรู้การผลัดกันเล่น แม้จะได้รับการสอนหรือเตือนหลายครั้ง
- ผลกระทบต่อความสัมพันธ์: พฤติกรรมนี้ทำให้เด็กมีปัญหาในการเล่นกับเพื่อนหรือถูกปฏิเสธจากกลุ่ม
5. วิธีช่วยเด็กเรียนรู้การแบ่งปัน
5.1 สอนแนวคิดของการแบ่งปัน
- อธิบายให้เด็กเข้าใจว่า การแบ่งปันช่วยให้ทุกคนมีความสุข เช่น “ถ้าเพื่อนเล่นด้วย เราจะมีเพื่อนเล่นสนุกไปด้วยกัน”
- ใช้ตัวอย่างหรือนิทานที่มีบทเรียนเรื่องการแบ่งปัน
5.2 ให้เด็กมีโอกาสฝึกการผลัดกัน
- ใช้เกมหรือกิจกรรมที่ต้องผลัดกัน เช่น การต่อบล็อกหรือเล่นกระดานเกม
- ตั้งกติกา เช่น “เล่นคนละ 5 นาที แล้วผลัดกัน” เพื่อให้เด็กเข้าใจว่าเขาจะได้ของเล่นคืน
5.3 เสริมพฤติกรรมเชิงบวก
- ชมเชยเมื่อเด็กแสดงพฤติกรรมแบ่งปัน เช่น “เก่งมากเลยที่หนูแบ่งรถให้เพื่อนเล่น”
- ใช้คำพูดที่สร้างแรงจูงใจ เช่น “ถ้าแบ่งกันเล่น เพื่อนก็จะแบ่งของเล่นให้หนูเล่นเหมือนกันนะ”
5.4 สร้างสถานการณ์ที่เด็กได้ฝึกทักษะสังคม
- จัดกลุ่มเล่นเล็กๆ ที่เด็กสามารถเรียนรู้การแบ่งปันในสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัย
- ชวนเพื่อนของเด็กมาที่บ้านและช่วยแนะนำวิธีการเล่นร่วมกัน
5.5 สอนด้วยการเป็นแบบอย่างที่ดี
- แสดงให้เด็กเห็นว่าผู้ใหญ่แบ่งปันสิ่งของหรือช่วยเหลือผู้อื่น เช่น การแบ่งอาหารหรือของใช้ในครอบครัว
5.6 ไม่บังคับหรือดุด่า
- หลีกเลี่ยงการบังคับให้เด็กแบ่งของเล่นในทันที เพราะอาจทำให้เด็กต่อต้านหรือรู้สึกไม่ดีต่อการแบ่งปัน
5.7 ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ
- หากพฤติกรรมยังคงรุนแรงหรือส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ในระยะยาว ควรปรึกษานักจิตวิทยาเด็กเพื่อช่วยประเมินและให้คำแนะนำเพิ่มเติม
6. ตัวอย่างกิจกรรมเพื่อส่งเสริมการแบ่งปัน
- เกมแบ่งกันเล่น: ให้เด็กเล่นของเล่นร่วมกัน เช่น ต่อจิ๊กซอว์ที่ต้องใช้ชิ้นส่วนของกันและกัน
- การเล่นบทบาทสมมติ: จำลองสถานการณ์ที่เด็กต้องแบ่งสิ่งของ เช่น เล่นเป็นเจ้าของร้านอาหารที่ต้องแบ่งอาหารให้ลูกค้า
- กิจกรรมกลุ่ม: เช่น การทำงานศิลปะที่ใช้สีหรืออุปกรณ์ร่วมกัน
สรุป
พฤติกรรม “ไม่แบ่งของเล่น” ในเด็กเล็กเป็นเรื่องปกติในช่วงต้นของพัฒนาการ แต่หากพฤติกรรมนี้ยังคงอยู่หรือส่งผลกระทบต่อการเข้าสังคม ควรให้ความใส่ใจและช่วยสอนเด็กให้เข้าใจแนวคิดของการแบ่งปัน
ด้วยการสอนอย่างค่อยเป็นค่อยไป การสร้างโอกาสให้เด็กฝึกการเล่นร่วมกับผู้อื่น และการให้คำชมหรือกำลังใจ เด็กจะสามารถเรียนรู้การแบ่งปันและพัฒนาทักษะทางสังคมได้อย่างเหมาะสม