วิธีช่วยเด็กจัดการอารมณ์เมื่อโกรธหรือหงุดหงิด

วิธีช่วยเด็กจัดการอารมณ์เมื่อโกรธหรือหงุดหงิด

by https://babyandmomthai.com/

วิธีช่วยเด็กจัดการอารมณ์เมื่อโกรธหรือหงุดหงิด

บทนำ

ในวัย 1-3 ปี เด็กยังอยู่ในช่วงพัฒนาทักษะการจัดการอารมณ์ เด็กวัยนี้มักแสดงออกถึงความโกรธหรือหงุดหงิดผ่านการร้องไห้ งอแง หรือแม้แต่การแสดงพฤติกรรมก้าวร้าว เนื่องจากยังไม่สามารถสื่อสารความรู้สึกหรือความต้องการได้อย่างชัดเจน การช่วยให้เด็กเรียนรู้วิธีจัดการอารมณ์ของตนเองเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยส่งเสริมความฉลาดทางอารมณ์ (Emotional Intelligence) และพัฒนาการที่สมบูรณ์ ในบทความนี้จะเสนอแนวทางที่ผู้ปกครองสามารถใช้เพื่อช่วยเด็กจัดการกับอารมณ์เมื่อโกรธหรือหงุดหงิด


เนื้อหา

ทำไมเด็กวัย 1-3 ปีถึงโกรธหรือหงุดหงิดง่าย

  1. ความสามารถในการสื่อสารยังพัฒนาไม่สมบูรณ์:
    • เด็กยังไม่สามารถพูดแสดงความต้องการหรือความรู้สึกได้ครบถ้วน
  2. ต้องการความเป็นอิสระ:
    • เด็กวัยนี้เริ่มพยายามทำสิ่งต่าง ๆ ด้วยตัวเอง และเมื่อไม่ได้ดั่งใจอาจเกิดความโกรธ
  3. ขาดความเข้าใจเกี่ยวกับกฎระเบียบ:
    • เด็กยังเรียนรู้ไม่เพียงพอเกี่ยวกับขอบเขตและความเหมาะสมในพฤติกรรม

วิธีช่วยเด็กจัดการอารมณ์

  1. เข้าใจและยอมรับอารมณ์ของเด็ก:
    • เมื่อเด็กโกรธหรือหงุดหงิด ควรแสดงความเข้าใจ เช่น “แม่รู้ว่าลูกไม่พอใจที่ไม่ได้เล่นของเล่นตอนนี้”
    • การยอมรับความรู้สึกช่วยให้เด็กเรียนรู้ว่าการมีอารมณ์เป็นเรื่องปกติ
  2. สอนให้เด็กแสดงความรู้สึกอย่างเหมาะสม:
    • สอนคำง่าย ๆ ให้เด็กใช้ เช่น “โกรธ” “เสียใจ” หรือ “ไม่ชอบ” เพื่อให้เด็กพูดแทนการแสดงพฤติกรรมที่รุนแรง
  3. ใช้เทคนิคเบี่ยงเบนความสนใจ:
    • หากเด็กโกรธเพราะไม่ได้ของเล่น ให้ลองเบี่ยงเบนความสนใจด้วยกิจกรรมใหม่ เช่น การชวนวาดรูปหรือร้องเพลง
  4. สอนวิธีสงบสติอารมณ์:
    • สอนเด็กหายใจเข้าลึก ๆ และนับเลข 1-5 ก่อนพูดหรือทำอะไร
    • ใช้การกอดหรือการสัมผัสเบา ๆ เพื่อช่วยให้เด็กผ่อนคลาย
  5. จัดการสิ่งกระตุ้น:
    • หลีกเลี่ยงสถานการณ์ที่อาจทำให้เด็กโกรธ เช่น การพาเด็กที่หิวหรือเหนื่อยไปที่แออัด

ตัวอย่างสถานการณ์และการรับมือ

  1. สถานการณ์: เด็กร้องไห้เพราะไม่ได้กินขนมที่ต้องการ
    • วิธีรับมือ:
      • ยอมรับความรู้สึก: “แม่รู้ว่าลูกอยากกินขนมมาก”
      • เสนอทางเลือก: “เรามากินผลไม้แทนดีไหมจ๊ะ?”
  2. สถานการณ์: เด็กโกรธและตีพ่อแม่เมื่อไม่ได้ของเล่น
    • วิธีรับมือ:
      • หยุดพฤติกรรม: “การตีไม่ใช่สิ่งที่ดีนะจ๊ะ”
      • สอนการสื่อสาร: “ลูกบอกแม่ได้นะว่าไม่พอใจ”
      • ให้ทางเลือก: “เราไปเล่นเกมอื่นกันดีไหม?”
  3. สถานการณ์: เด็กงอแงเมื่อถูกบอกให้หยุดเล่น
    • วิธีรับมือ:
      • แจ้งล่วงหน้า: “อีก 5 นาที เราต้องเก็บของเล่นแล้วนะจ๊ะ”
      • เสนอรางวัล: “ถ้าเก็บของเล่นเสร็จแล้ว เราจะไปอ่านนิทานกัน”

เทคนิคการสอนจัดการอารมณ์ระยะยาว

  1. เล่นเกมบทบาทสมมติ:
    • ใช้ตุ๊กตาหรือของเล่นจำลองสถานการณ์ เช่น “ตุ๊กตาโกรธเพราะอะไรดีนะ?” และช่วยเด็กฝึกแสดงอารมณ์
  2. สร้างพื้นที่สงบสำหรับเด็ก:
    • จัดมุมสงบที่เด็กสามารถนั่งผ่อนคลาย เช่น มุมอ่านหนังสือหรือมุมที่มีของเล่นนุ่ม ๆ
  3. ให้เด็กได้เลือก:
    • ให้เด็กมีส่วนร่วมในการตัดสินใจเล็ก ๆ น้อย ๆ เช่น “ลูกอยากกินข้าวหรือซุปก่อนดี?”
  4. ใช้คำชมเมื่อเด็กจัดการอารมณ์ได้ดี:
    • “ลูกทำได้ดีมากเลยที่ไม่ร้องไห้ตอนนี้ เก่งมากจ้ะ”

ข้อควรระวัง

  1. อย่าละเลยความรู้สึกของเด็ก:
    • การบอกให้เด็ก “หยุดร้อง” หรือ “อย่าโกรธ” โดยไม่อธิบาย อาจทำให้เด็กไม่เข้าใจวิธีจัดการอารมณ์
  2. หลีกเลี่ยงการใช้ความรุนแรง:
    • การตีหรือดุด่าอาจทำให้เด็กกลัวและส่งผลต่อการเรียนรู้ในระยะยาว
  3. หลีกเลี่ยงการให้รางวัลเพื่อหยุดอารมณ์ทันที:
    • เช่น การให้ของเล่นเมื่อเด็กงอแง อาจทำให้เด็กเรียนรู้ว่าการโกรธช่วยให้ได้สิ่งที่ต้องการ

สรุป

การช่วยเด็กวัย 1-3 ปีจัดการอารมณ์เมื่อโกรธหรือหงุดหงิดเป็นกระบวนการที่ต้องอาศัยความเข้าใจและความอดทนจากผู้ปกครอง การสอนให้เด็กเข้าใจอารมณ์ของตัวเองและแสดงออกอย่างเหมาะสมจะช่วยเสริมสร้างความฉลาดทางอารมณ์ในระยะยาว การใช้เทคนิคที่สร้างสรรค์ เช่น การเบี่ยงเบนความสนใจ การเล่นบทบาทสมมติ และการสร้างพื้นที่สงบ จะช่วยให้เด็กเรียนรู้วิธีจัดการอารมณ์อย่างมีประสิทธิภาพ

 

You may also like

Share via