7 โรคต้องระวัง พบบ่อยในเด็กทารกแรกเกิด (ตอนที่ 1)
เมื่อตั้งครรภ์ คุณแม่ทุกคนปรารถนาให้ลูกมีร่างกายที่สมบูรณ์แข็งแรง แต่ก็มีเด็กหลายคนเมื่อคลอดออกมาแล้ว กลับมีโรคติดตัวตามมาด้วย ดังนั้นคุณแม่มือใหม่ควรศึกษาเอาไว้ เพื่อจะได้ดูแลตัวเองให้มากขึ้น เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดโรคเหล่านี้
1.ภาวะตัวเหลือง
ภาวะตัวเหลืองนั้น พบได้บ่อยในทารกแรกเกิด ทั้งในเด็กที่คลอดตามกำหนด แต่แนวโน้มจะเป็นมากขึ้นในเด็กที่คลอดก่อนกำหนด ส่วนสาเหตุของโรคส่วนใหญ่นั้นเกิดขึ้นจากสารสีเหลืองสูงเกินไป และร่างกายไม่สามารถกำจัดออกมาได้ เนื่องจากตับของทารกยังทำงานได้ไม่สมบูรณ์นัก ส่วนอาการสามารถสังเกตเห็นได้ในช่วง 2-3 วันหลังคลอด โดยอาการจะเริ่มที่ใบหน้ามีสีเหลือง รวมทั้งบริเวณลำตัว และเยื่อบุตา ถ้าหลังคลอดคุณแม่พบว่าลูกมีภาวะตัวเหลือง ควรให้นมลูกบ่อยๆ เพื่อขับสารสีเหลืองออกจากร่างกาย แต่ถ้าเด็กตัวเหลืองมากขึ้น หรือเป็นนานเกิน 2 สัปดาห์ควรพาไปพบแพทย์ทันที เพราะถ้าปล่อยไว้นานอาจทำให้เกิดอันตรายถึงกับชีวิตได้
2.การติดเชื้อ
ทารกแรกเกิดนั้นมีโอกาสติดเชื้อได้ง่าย เนื่องจากภูมิคุ้มกันร่างกายของเด็กนั้นยังต่ำอยู่ โดยส่วนใหญ่จะติดเชื้อมาจากแม่ โดยเฉพาะถ้าขณะตั้งครรภ์แม่เกิดภาวะถุงน้ำคร่ำแตกก่อนกำหนด และปล่อยไว้นานเกินไป ไม่รีบมาพบแพทย์ทำคลอด จะทำให้เกิดการอักเสบติดเชื้อในโพรงมดลูก จนส่งผลให้เชื้อโรคเข้าสู่ร่างกายของทารกได้ ดังนั้นคุณแม่ต้องหมั่นสังเกตว่าเมื่อเกิดถุงน้ำคร่ำแตกเมื่อไหร่ ควรรีบมาหาหมอ รวมทั้งสังเกตอาการผิดปกติของทารกที่คลอดออกมาแล้ว โดยมักมีอาการต่างๆ เช่น ดูดนมน้อย ซึม ไม่ค่อยร้อง หายใจผิดปกติ มีไข้ จึงควรนำลูกมาพบแพทย์ทันที
3.หัวใจพิการแต่กำเนิด
โรคหัวใจพิการแต่กำเนิด เกิดจากการที่หัวใจไม่สามารถส่งเลือดไปเลี้ยงร่างกายได้อย่างเพียงพอ และเป็นความผิดปกติที่เกิดขึ้นตั้งแต่ช่วง 3 เดือนแรกที่เป็นทารกอยู่ในครรภ์ ซึ่งสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคหัวใจพิการตั้งแต่กำเนิดนั้น อาจเกิดจากโรคทางพันธุกรรม และการติดเชื้อในขณะตั้งครรภ์ โดยอาการที่บ่งบอกว่าเป็นหัวใจพิการในทารกแรกเกิดนั้นก็คือ ทารกจะมีริมฝีปากเป็นสีเขียว หายใจแรง เมื่อหายใจเข้าออกจะสังเกตว่าซี่โครงจะบานออก และหน้าอกบุ๋ม มือเท้าและตัวเย็น เป็นต้น โดยแพทย์จะให้การรักษาตามอาการตั้งแต่ให้ทานยา สวนหัวใจ และผ่าตัด
และนี่ก็คือโรคที่มักจะพบได้บ่อยในเด็กแรกเกิด ซึ่งก็ยังมีอีก 4 โรค โดยจะมีโรคอะไรบ้างนั้น ไปติดตามต่อในตอนที่ 2 กันได้เลย ซึ่งเราได้รวบรวมข้อมูลมาให้คุณพ่อคุณแม่ได้ศึกษากันแล้ว