คุณแม่ให้นมลูก คุมกำเนิดด้วยวิธีไหนได้บ้าง
แม้ว่าการให้นมลูก จะถือว่าเป็นการคุมกำเนิดอีกวิธีหนึ่ง แต่ก็ยังให้ผลลัพธ์ที่ไม่แน่นอน ดังนั้นจึงจำเป็นต้องหาวิธีการคุมกำเนิดที่ได้ประสิทธิภาพมากกว่า ซึ่งต้องไม่ส่งผลกระทบต่อการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ด้วย โดยจะมีวิธีไหนบ้างนั้น ต้องมาดูกันเลย
1.ถุงยางอนามัย
การใส่ถุงยางอนามัยนั้น แน่นอนว่าไม่ส่งผลต่อสุขภาพของคุณแม่ รวมทั้งไม่มีผลต่อการให้นมลูกด้วย ซึ่งการหาซื้อถุงยางอนามัยก็หาซื้อได้ง่ายตามท้องตลาด แถมการใส่ถุงยางยังช่วยป้องกันการติดเชื้อจากการมีเพศสัมพันธ์ได้เช่นกัน ดังนั้นการใส่ถุงยางอนามัยจึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่เหมาะกับการคุมกำเนิด สำหรับแม่ให้นมลูกมากทีเดียว
2.ยาฝังคุมกำเนิด
การใช้ยาฝังคุมกำเนิดนั้นไม่ทำให้น้ำนมลดน้อยลง และถือเป็นวิธีคุมกำเนิดที่ดีมากทีเดียว โดยมีอัตราการตั้งครรภ์เป็น 0 ในช่วง 3 ปีแรก ซึ่งยาฝังนั้นสามารถคุมกำเนิดได้นาน 3-5 ปี และควรฝังภายในหลังประจำเดือนมา 5 วัน หรือ ภายใน 6 สัปดาห์หลังการคลอด โดยหลังจากการฝังยา 7 วัน ควรเลือกวิธีคุมกำเนิดแบบอื่นไปก่อน
3.ห่วงคุมกำเนิด
ห่วงคุมกำเนิดช่วยคุมกำเนิดได้นานตั้งแต่ 3-10 ปี ซึ่งถือเป็นวิธีการคุมกำเนิดที่ประหยัด และไม่ส่งผลต่อการให้นมบุตร โดยแพทย์จะเป็นผู้ใส่ห่วงคุมกำเนิดให้ ซึ่งคุณแม่ควรไปให้แพทย์เช็ดปีละครั้งหรือมากกว่าก็ได้ว่าห่วงนั้นยังอยู่ดีไหม และถ้าต้องการมีบุตรคนต่อไปก็สามารถเอาออกได้ทันที
4.ฉีดยาคุมกำเนิด
การฉีดยาคุมกำเนิดไม่ทำให้ปริมาณน้ำนมแม่ลดลง โดยเริ่มฉีดได้ตั้งแต่ 6 สัปดาห์หลังคลอดบุตร ซึ่งการฉีดยาเพียงเข็มเดียวสามารถคุมกำเนิดได้ถึง 3 เดือน จึงเป็นข้อดีสำหรับคุณแม่ที่มักจะลืมกินยา นอกจากนี้การเลือกวิธีฉีดยาคุมกำเนิดนั้นยังให้ผลลัพธ์ที่ดีกว่าการทานยาเม็ดคุมกำเนิดที่มีโปรเจสเตอโรนเพียงอย่างเดียวด้วย
5.ยาเม็ดคุมกำเนิด
ในยาเม็ดคุมกำเนิดทั่วไป จะมีฮอร์โมนอยู่ 2 ชนิด ได้แก่ เอสโตรเจน และโปรเจสเตอโรน ซึ่งแนะนำคุณแม่ที่ให้นมควรเลือกกินยาเม็ดคุมกำเนิดที่มีโปรเจสเตอเจนแค่ชนิดเดียว เพราะไม่มีผลทำให้ปริมาณน้ำนมลดลง แต่การการทานยาเม็ดคุมกำเนิดที่มีเฉพาะฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนนั้น ต้องทานให้เป็นเวลาและสม่ำเสมอ มิเช่นนั้น อาจส่งผลข้างเคียงทำให้มีเลือดออกกระปริบกระปรอย หรือตั้งครรภ์ได้